สิ่งที่คุณต้องมองคือภาพในอีก 18 เดือนข้างหน้า เพราะราคาหุ้นในวันนี้สะท้อนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น

uckenmiller กล่าวถึงเหตุผลที่เราไม่ควรลงทุนโดยมองแค่ปัจจุบัน: "ไม่สำคัญเลยว่าบริษัทตอนนี้กำลังทำกำไรเท่าไหร่ หรือเคยทำได้แค่ไหน — สิ่งที่คุณต้องมองคือภาพในอีก 18 เดือนข้างหน้า เพราะราคาหุ้นในวันนี้สะท้อนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น" --- ราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ แต่มันสะท้อนสิ่งที่ “ตลาดคาดว่า” จะเกิดในอนาคต ดังนั้น แทนที่จะถามว่า “บริษัทนี้กำไรดีมั้ยตอนนี้?” ควรเปลี่ยนเป็น “อีก 18 เดือนข้างหน้า บริษัทนี้จะดีกว่านี้ไหม?” ใครที่มองอนาคตได้แม่นกว่า คนนั้นมักจะได้เปรียบในตลาด --- การลงทุนไม่ใช่การถอดบัญชีกำไรขาดทุน แต่คือการอ่าน “เรื่องราวของอนาคต” อย่าลงทุนเพื่อวันนี้ — ลงทุนเพื่อสิ่งที่จะมาถึง

Do Story : วิธีเล่าเรื่อง ให้ โลกต้องฟัง

โดย เซียว จับอิดนึ้ง : facebook.com/zyoit


เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ บางๆ ผมเห็นซุกอยู่ในมุมของชั้นหนังสือ แต่ที่หาเจอเพราะมีความต้องการหาหนังสือเกี่ยวกับการเขียนอยู่พอดี ทั้งชั้นมีเล่มเดียวจริงๆ
เมื่อดูปก
ภาพรวมของชื่อ ไม่โดนสักเท่าไหร่ แต่คำว่า "วิธีเล่าเรื่อง" ก็น่าจะสนอง need ได้ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

พลิกไปดูปกหลัง
มีการเน้นคำว่า "เรื่องราว" ตัวใหญ่เด่น ก็ตรงกับ need พอดี ซึ่งถ้าใครอยากหาเรื่องแบบนี้ ก็น่าจะมีน้ำหนักให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีก

ช่วงล่าง มีการระบุ "...พื้นฐานของการเล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณสั่นสะเทือนหัวใจของทุกคน..." ทำให้ว่าที่ลูกค้าสร้างจินตนาการปะติดปะต่อเองไปว่า อย่างน้อยเราน่าจะได้พื้นฐานของการเล่าเรื่องได้ดีขึ้น

ราคา 150 บาท หนังสือมีการซีลพลาสติก จึงไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่กันแน่

เมื่อเทียบกับความกลางๆ ของการนำเสนอ ก็ถือว่าไม่แพงมาก พอเสี่ยงไหว
ที่บอกว่าเสี่ยง เพราะเราไม่รู้เนื้อในเลย ว่าเราจะได้อะไรบ้างจากเล่มนี้เลย

พอได้เป็นเจ้าของ
พลิกอ่าน
บอกตรงๆว่า เนื้อหาเบาบางไปนิด
แต่ก็ตรงปกนะ บางเท่าปกเลย
มีไม่กี่เรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอัน

ประเด็นที่จับต้องได้
อย่างน้อย เขาก็บอก กฎ ๑๐ ข้อของการเล่าเรื่อง
แต่เอาเท่าที่เข้าใจ น่าจะมีแค่ ๖ ข้อ
๑) เล่าให้เหมือนพูดให้เพื่อนฟัง
๒) อธิบายฉาก สถานที่ เวลา ฯลฯ ให้เขาเห็นภาพ
๓) เปรียบเทียบ ความตรงข้าม
๔) นำเสนอความเปราะบาง สิ่งที่คุณสงสัย, สับสน, โกรธ, เศร้า, ความรู้ใหม่, ความเข้าใจผิด/เพิ่ม, เบิกบานใจ, ยินดี, ฯลฯ
๕) ปล่อยออกมาทั้งประสาทสัมผัสทั้งห้า
๖) เล่าเรื่องตัวเอง

ความเปราะบาง คือสิ่งที่เขาเน้นมาก
เพราะมันคือของดี ช่วยให้ผู้ฟังเข้าถึง และอินกับตัวคุณ(ผู้พูด) มากขึ้น
อย่าอายที่จะพูดเรื่องตัวเอง เรื่องความประทับใจ ความกลัว ฯลฯ

มีประโยชน์ กับใคร?
คนที่ต้องการเป็นนักพูดระดมทุน
นักปลุกเร้า ต้องการให้ผู้ฟังทำอะไรสักอย่าง
แต่อย่าคาดหวังเยอะ
เพราะหลังจากอ่านจบ คุณจะไปเว็บamazon, se-ed เพื่อหาหนังสือที่มีเนื้อหาเหมือนกัน
เพื่อเรียนรู้ให้มากขึ้น จะได้กลับมาอ่านนี้แล้วได้ของเพิ่มขึ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่