คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม

Image
พี่มาร์ค มิเนอร์วินี กล่าวว่า “หากคุณต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม” การเป็นนักเทรดที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอไม่ได้หมายถึงการชนะทุกครั้งที่คุณเข้าเทรด แต่หมายถึงการมีวิธีการจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเพื่อให้คุณสามารถปกป้องทุนของคุณและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว  นี่คือการขยายความแนวคิดที่ว่า "การเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม" สำคัญอย่างไร: eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://t.co/YaO0CIQq8J 1. ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด ในตลาดการเงิน ไม่มีใครสามารถควบคุมผลลัพธ์ของแต่ละการเทรดได้ การเคลื่อนไหวของตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ หรือพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความสำเร็จจึงไม่ได้มาจากการ "เดาถูก" แต่เป็นการรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเมื่อคุณ "เดาผิด" ตัวอย่าง:   สมมติว่าคุณมีเงินทุน 100,000 บาท หากคุณใช้เงินทั้งหมดในการเ

สรุปหนังสือ หุ้นซิ่ง สวิงเทรด (EMA Swing Trade)

สรุป หนังสือเล่มใหม่เพื่อท่านผู้อ่าน "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด"
เล่มนี้มี 373 หน้า ราคา 380 บาทครับ(ส่งฟรี EMS)
ถ้าท่านสั่งมากกว่าหนึ่งเล่มขอให้สอบถามทางเพจ zyobooks ในเรื่องของราคาอีกที
มีขายออนไลน์แล้วครับ ที่เพจ facebook.com/zyobooks 
ซึ่งมีขายออนไลน์ที่เดียวเท่านั้น ไม่ได้ขายตามร้านหนังสือทั่วไปนะครับ
วิธีการสอบถามและสั่งซื้อ ก็ไปที่เพจ zyobooks แล้วคลิกที่ปุ่ม "ส่งข้อความ" ได้เลยครับ คุณแป๋ม ซึ่งเป็นทีมงานรับออร์เดอร์และจัดส่งจะ standby รอบริการท่านอยู่


วิธีการสั่งก็ให้
๑) คลิกไปที่ปุ่ม "ส่งข้อความ" นะครับ
๒) แล้วแจ้งไปว่าต้องการสั่งกี่เล่ม เดี๋ยวคุณแป๋มจะแจ้งยอดโอนให้ท่านอย่างไวที่สุด
๓)  จากนั้นท่านก็โอนเงินเข้าบัญชีเธอ ส่งภาพสลิปหลักฐานการโอน
พร้อมกับแจ้ง ชื่อ-ที่อยู่เพื่อการจัดส่งที่ชัดเจน
๔) แล้วก็รอรับของ โดยการส่งครั้งนี้เป็น EMS นะ รับรองท่านจะได้ของไว
และสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ครับ


โดยครั้งนี้ ทีม zyobooks ได้ทำ packaging ได้ fit และถนอมหนังสือมากครับ ด้วยการใส่ถุงพลาสติก+ ซองพลาสติกที่มี air bubble บุอยู่ข้างใน ที่สามารถปกป้องหนังสือให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยมก่อนถึงมือคุณ

----- (eBook ก็มีขายแล้วนะครับ) ---------
Ebook มีขายที่เว็บ mebmarket.com เท่านั้นครับ
รายละเอียด คลิกที่ชื่อหนังสือเลยครับ
------ (ขอบคุณครับ) -----


นี่เป็นไฮไลท์ของหนังสือครับ




มีบางท่านถามถึงสารบัญ ก็มีหัวข้อใหญ่ๆดังนี้ครับ


เหตุผลที่ทำหนังสือเล่มนี้ให้ท่าน
ก็เพื่อจะนำเสนอแนวทางการเล่นหุ้นอีกแบบหนึ่งที่มองการเคลื่อนไหวในกรอบที่สั้นลงครับ
เนื่องจากเล่มที่แล้ว ผมได้เขียนถึงกลยุทธ์การซื้อแล้วถือในระยะยาว ด้วยกราฟรายสัปดาห์เป็นหลัก ซึ่งคิดว่ามันน่าจะยังไม่ตอบโจทย์ให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ชอบเล่นสั้นกว่า
จึงพยายามรวบรวมไอเดียและเคสจำนวนมากเพื่อสนับสนุนแนวทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แท่งเทียน เส้นค่าเฉลี่ย จุดซื้อขาย รวมถึงจิตวิทยาของมวลชน อันจะช่วยให้ท่านได้..
- ให้ท่านเข้าใจพฤติกรรมของแท่งเทียนมากขึ้น ในแบบที่เอาไปใช้จริงได้ ไม่ใช่แค่ท่องจำ
- ให้ท่านเข้าใจจิตวิทยามวลชนผ่านการเคลื่อนไหวของราคาได้มากขึ้น
- ให้ท่านได้จุดซื้อ-จุดขาย ที่หลากหลายมากขึ้น
- ให้ท่านรันเทรนด์ระยะสั้นได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ที่มาของหนังสือ
เนื้อหาใจความของเล่มนี้ ก็เป็นแนวทางการเล่นสั้นแบบ swing trade ด้วยการเอาเส้นค่าเฉลี่ย EMA มาใช้ร่วมในการรันเทรนด์ และเป็น trailing stop โดยมีพระเอกเดินเรื่องคือ แท่งเทียน
โดยแท่งเทียนที่ผมเอามานำเสนอนั้น มีไม่กี่แบบครับ เอาเท่าที่เห็นบ่อย ซึ่งผมจะมีวิธีการอธิบายให้ท่านเข้าใจใด้วยเคสที่หลากหลาย สาธยายผ่านจิตวิทยาของสิ่งแวดล้อม อันจะทำให้ท่านเข้าใจที่มาของมัน และน่าจะช่วยให้ท่านจำมันได้ขึ้นใจกว่าท่องจำตามตำราทั่วไป


ต้นแบบและแรงบันดาลใจของหนังสือเล่มนี้
โดยไอดอลที่เป็นต้นแบบของเล่มนี้มีหลายคนครับ
- ปู่วิลเลียม โอนีล ผมเอาไอเดียการขายรูปแบบปรับปรุงของแก คือ +20% มาตั้งข้อสังเกตกับการเคลื่อนไหวของหุ้นบ้านเรา โดยเฉพาะที่แกบอกว่า "หุ้นส่วนใหญ่จะวิ่งได้ถึงแค่20% แล้วก็พักตัว" ครับ ซึ่งมันใช้ดีเอามากๆ และนอกจากนี้ก็ได้เอาแนวคิดเกี่ยวกับลักษณะของ climax run บางส่วนมาใช้และหาเคสที่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าว
-  พี่มาร์ค มิเนอร์วินี ผมก็เพิ่งทราบว่าพี่เค้าเป็นนักสวิงเทรด พอได้ค้น ได้อ่านจากหนังสือ และงานเขียนของแกด้วยหลักคิดนี้ ก็เลยได้ไอเดียหลายๆอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อแนวทางนี้ ซึ่งแกก็บอกไม่เยอะหรอก แต่ถ้าเราเอาของแกกับปู่โอนีลไปใช้ร่วมกัน ก็จะได้เห็นภาพที่ใหญ่และมีที่มาที่ไปมากขึ้น
- ลุงโฉลก สัมพันธรักษ์ ผมเป็นสาวกที่ชื่นชอบดูคลิปของท่านมาก จึงเอาไอเดียบางส่วนมาต่อยอด เช่น การเล่น swing trade การดูหุ้นก่อนซิ่ง รวมถึงลักษณะของ contrary opinion ด้วยครับ


ถ้าท่านเคยอ่าน Ebook หุ้นซิ่ง น่าจะชอบเล่มนี้
ที่ผมตั้งชื่อหนังสือ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" ก็เป็นการต่อยอดจาก ebook ที่ชื่อ หุ้นซิ่ง

ซึ่งเคยได้รับความนิยมเข้ามาอ่านอันมากมาย หากท่านไม่เคยอ่าน ก็เข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้

โดยเล่มนี้จะเป็นการเอาไอเดียเหล่านั้นมาเรียบเรียงให้ท่านเห็นภาพและได้จุดร่วมที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น และอยากให้เสี่ยงน้อยลง
โดยผมจะเน้นที่ "แนวโน้มขาขึ้น" เท่านั้น

คือจะว่าไปแล้ว หุ้นขาขึ้น, หุ้นเวฟ 3, หุ้นโมเมนตัม, หุ้นนำตลาด มันก็คือ "หุ้นซิ่ง" ในสายตาผม เพียงแต่มีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันไป

ดังนั้น เล่มนี้ก็พูดถึงหุ้นขาขึ้นเหมือนเดิม แต่จะนำเสนอเป็น daily chart ให้ท่านใด้เห็นบทบาทของแท่งเทียนกับเส้นค่าเฉลี่ยและวอลุ่มมากขึ้น

ปิดจุดอ่อนจากการเล่นหุ้นซิ่ง
โดยแนวทางการเล่นหุ้นซิ่งเล่มนี้จะเป็นการปกปิดจุดอ่อนของตัวเองที่เคยล้มเหลวจากมันมาก่อน ซึ่งปัญหาของการเล่นหุ้นซิ่งที่ผมเจอกับตัวในอดีต คือ....
๑) "ไม่รู้แนวโน้ม" เห็นวอลุ่มเข้าสูงๆก็กระโจนตามแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ผลก็คือไปรับหุ้นจากคนทำราคาที่ปั่นเรียกแขก ผลก็คือซื้อไปก็ติดดอย
ดังนั้นเล่มนี้ก็จะชวนท่านสังเกตแนวโน้มขาขึ้นให้ได้ก่อน ด้วยการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเป็นตัวช่วย ถ้ามันมีโมเมนตัมแล้วค่อยเข้า

๒) ไม่รู้จักขาย ตัวเองที่เล่นหุ้นซิ่งทุกตัวก็หวังเด้ง เพราะเห็นเคสในอดีตมีหุ้นวิ่งเป็นสิบเด้ง ก็อยากจะได้บ้าง พูดง่ายๆคือโลภ และหวังแจ็คพ็อต ลมๆแล้งๆ ดังนั้นเล่มนี้จึงไม่ชวนท่านคิดไกลถึงขนาดนั้น รันตามแนวโน้มเท่าที่ตลาดเขาจะให้ด้วยการใช้เส้นค่าเฉลี่ย และเป้ากำไรเป็นตัวกำหนด
พูดง่ายๆคือ เน้นเอากำไร 5-20% ต่อรอบเป็นพอ แต่ถ้าตลาดให้มากกว่านั้น ก็สามารถรันเทรนด์ได้

ซึ่งแนวทางการสวิงเทรดจะช่วยให้ท่านไม่มองการณ์ไกลเกินไป คืออยู่ในโลกของความจริงมากขึ้น ด้วยการตั้งเป้าระดับ take profit เป็นเปอร์เซ็นต์ หรือใช้ EMA ระยะสั้นเป็นตัวช่วยรันเทรนด์ หรือแม้กระทั่งดูทรงของแท่งเทียนเพื่อหาสัญญาณ climax run อันจะได้ขายในโซนสูงสุด

ดังนั้น เมื่อได้อ่านเล่มนี้ ท่านจะได้ไอเดียในการ take profit ที่หลากหลายมากกว่าเดิม ใครที่บ่นว่าซื้อแล้วขายไม่เป็น เล่มนี้ช่วยท่านได้

ความต่างระหว่างหนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด กับ หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ คือ
๑) กราฟในหนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด เป็น daily chart แต่เล่มก่อนเป็น weekly chart
ที่ใช้กราฟรายวัน ก็เพราะมันเหมาะสำหรับคนเล่นสั้นมากกว่าครับ ท่านจะได้เห็นเคสของกราฟที่เป็น daily chart มากมาย ซึ่งมันน่าจะทำให้ท่านเห็นรายละเอียดสำคัญๆในช่วงที่เป็นจุดกลับตัว ว่าหน้าตาของแท่งเทียนเป็นยังไง จะได้ action ได้ทันท่วงที

๒) หนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด เน้นการเล่นรอบสั้น รันเทรนด์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น ที่ผมเรียกว่า EMA Swing trade คือเน้นกำไรไม่มากนัก 5-20% เอาเฉพาะที่ราคามีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โมเมนตัมแรง

๓) หนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด ให้จุดซื้อ-จุดขายที่หลากหลายมากขึ้น
- จุดซื้อมี 2 แบบ คือ buying strength กับ buying weakness
- จุดขายก็มี 2 แบบ คือ selling into strength กับ selling weakness
ที่ให้ท่านดูหลายๆแนวก็เพราะอยากให้ท่านได้อาวุธไปใช้ที่หลากหลายขึ้น เพราะหุ้นแต่ละตัวก็มีทรงการเป็นขาขึ้นที่ต่างกัน จะได้ประยุกต์ใช้ถูก บางตัวซื้อ breakout ไม่รอด แต่ถ้าซื้อตอนย่อกลับดีกว่า เดี๋ยวในเล่มจะมีเคสให้ท่านดูมากมายเลย

โดยหนังสือหุ้นขาขึ้นรอบใหญ่นั้น ผมได้รับ comment จากผู้อ่านว่าซื้อเป็นแล้ว กล้าตัดขาดทุนแล้ว แต่ยังไม่แม่นเรื่องขาย ดังนั้นผมจึงเอาไอเดียเรื่องการขายมาให้ท่านได้อ่านหลายแบบขึ้น ไม่ว่าจะขายเมื่อราคาส่งสัญญาณ climax run หรือขายเมื่อราคาหมดโมเมนตัม

บางท่านก็บอกว่า จุดซื้อแบบ breakout มันน้อยไป ผมก็เลยเอาเคสของการซื้อตอนย่อ หรือที่ผมเรียกว่า buying weakness หรือ buy on dip ว่าควรซื้อตรงไหน โดยเน้นที่การดูแท่งเทียนเป็นหลัก ว่าหน้าตาของแท่งเทียนกลับตัวที่น่าสนใจมันเป็นแบบไหน

พูดง่ายๆว่าหากใครอ่านเล่มที่แล้ว(คือหุ้นขาขึ้นรอบใหญ่) กับเล่มใหม่(หุ้นซิ่งสวิงเทรด)ต่อเนื่องกัน ท่านจะได้ไอเดีย-ได้มุมมองในการซื้อและขายได้มากขึ้น เพราะท่านจะเห็นรายละเอียดจุดเปลี่ยนที่ชัดเจน อันจะทำให้ท่านได้อาวุธในการเข้าทำและ take profit ที่หลากหลายขึ้น

๔) แท่งเทียน ผมภูมิใจนำเสนอมาก เพราะรู้สึกว่าเท่าที่เห็นในตลาด ผมอ่านไม่เข้าใจ เอาไปประยุกต์ใช้ไม่เป็น ดังนั้นจึงสร้างเนื้อหา-นำเสนอแนวใหม่เสียเลยด้วยการ เอาเคสกับแท่งเทียนมาอธิบายร่วม ในรูปแบบซ้ำๆ คือผมเป็นคนไม่หวงเคส อย่าให้เจอ จะเอามาให้ท่านดูให้หมด เพื่อให้ท่านจำมันได้ ว่าทรงแบบนี้มันเป็นขาประจำนี่นา เมื่อเห็นบ่อยท่านก็จะมีจุดเชื่อม ยิ่งมีการอธิบายด้วยเหตุผลทางจิตวิทยาตลาดด้วย ก็น่าจะช่วยให้ท่านเห็นภาพและปะติดปะต่อได้ดีกว่าอ่านเล่มอื่น

ผมเชื่อว่าทุกคนอยากจำลักษณะของแท่งเทียนให้ได้เยอะๆ แต่ปัญหาคือหนังสือทั่วไปเน้นให้ท่านจำอย่างเดียว แต่ไม่ค่อยมีเคสจึงให้เอาไปใช้ไม่เป็น เมื่อเราไม่ได้เอาไปใช้ สักพักก็ลืม ซึ่งผมก็ประสบปัญหาแบบนี้มาก่อน จึงพยายามคัดเอาเฉพาะแท่งเทียนที่เห็นบ่อยมาให้ท่านดูไม่กี่ตัว จากนั้นก็ชี้ว่ามันมักจะเกิดที่โซนนี้นะ เป็นประจำเลย โดยเอาเคสที่เกิดกับหุ้นหลายๆตัวมาให้ท่านดูเพื่อสร้่างความเชื่อมั่นว่ามันเกิดบ่อยจริง ซึ่งมันน่าจะทำให้ท่านจำได้ขึ้นใจมากขึ้น และเอาไปสังเกต ถ้าหากท่านใช้ดี เดี๋ยวมันก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านทำการศึกษาเรื่องแท่งเทียนได้อย่างมีวิตถุประสงค์มากขึ้นครับ

๕) พูดถึงจิตวิทยา, ในเล่มผมก็มี subplot ที่เขียนถึงผู้เล่น  3 กลุ่ม คือ รายใหญ่-นักเล่นรอบมืออาชีพ-และเม่า ก็จะมีการอธิบายว่าตรงนี้เป็น action zone ของใคร ใครเป็นคนทำให้เกิดแท่งเทียนแบบนี้ ฯลฯ

๖) เคสการรันเทรนด์หุ้นโมเมนตัมสวยๆ ด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 5-10-20-50-100-200 วัน เรียกได้ว่าอ่านจุใจกันไปเลย ไม่ว่าจะด้วยการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเหล่านี้ไปหาจุดกลับตัวประกอบกับแท่งเทียน รวมถึงจุดขายหุ้น เพื่อ take profit ด้วยครับ

ตัวอย่างบทความที่เคยถูกเผยแพร่ และอยู่ในหนังสือเล่มนี้
ในเล่มจะมีทั้งการเอาบทความเก่าๆที่ผมเคยเอาไปโพสต์ให้ท่านอ่านบางส่วนไว้ด้วย
ซึ่งจะมีสัดส่วนเนื้อหาใหม่ 70% : ของเก่าที่เคยโพสต์ 30%
โดยบทความเก่าที่เคยเผยแพร่ มีดังนี้
หากท่านไม่ใช่แฟนคลับของเซียว จับอิดนึ้ง ไม่เคยอ่านบทความมาก่อน ท่านสามารถลองอ่านบทความตัวอย่างเหล่านี้ก่อนได้ครับ จะได้รู้ว่าสไตล์การนำเสนอเป็นแบบไหน

หนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด เหมาะกับใคร?
หากท่านมีพื้นฐานในการศึกษา+อ่านหนังสือเกี่ยวกับเทคนิคอลมาบ้างแล้วจะดีมากครับ เพราะอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าผู้เขียนต้องการจะสื่ออะไร โดยผมคาดว่าเนื้อหาและเคสในเล่มนี้จะทำให้ท่านได้เห็นจุดเชื่อมต่อของไอเดีย และเข้าใจ เห็นภาพแนวคิดทางด้านเทคนิคอลได้มากขึ้นครับ

หากท่านเคยอ่านหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" มาก่อนแล้ว ท่านจะอ่านเล่มนี้ได้สบายเลยครับ เพราะมันเป็นเหมือนส่วนขยาย เจาะให้ท่านเห็นการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนรายวันได้แบบไกล้ชิดขึ้น ท่านจะเห็นจุดกลับตัวที่เป็น real time กว่า weekly chart ที่นำเสนอในเล่มก่อน

ส่วนมือใหม่จริงๆ ผมก็เกรงว่าท่านน่าจะต้องใช้เวลาจับแพะชนแกะพอสมควรครับ เพราะในเล่มได้ใช้ศัพท์เฉพาะที่เทรดเดอร์สายเทคนิคอลพอสมควรเลย แต่ก็ไม่ได้ทำความเข้าใจยากจนเกินไปนัก ซึ่งท่านอาจจะใช้มันเป็นแรงบันดาลใจ เป็นรากฐานไปศึกษาเล่มอื่นต่อได้เช่นกันครับ



คลิปชมเพิ่มเติม












ปล่อยของแบบไม่กั๊ก


ปล่อยของแบบไม่กั๊ก
ขอบคุณทุกคำชมหนังสือและคำฝากมาถึงผู้เขียนนะครับ
พอดีคุณแป๋มเธอบ้ายอมาก พอแฟนหนังสือคุยชมที่เพจ Zyo Books :  facebook.com/zyobooks หน่อยก็รีบแค็ปหน้าจอมาให้ผมทันที
ว่างๆก็เลยลองไล่เรียงอ่านรีวิวจากผู้อ่าน จึงไปสะดุดกับคำหนึงที่อยากเอามาอธิบายเหตุผลให้ทราบทั่วกัน
คือประโยคทำนองว่า "ปล่อยของแบบไม่กั๊กเลย"

เออนั่นสิ...ทำไมผมถึงไม่กั๊กความรู้กับท่าน?
๑) ผมคิดว่าท่านมีน้ำใจกับผมมากน่ะสิครับ
ท่านกล้าสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ที่ facebook.com/zyobooks กับคนที่ท่านไม่รู้จัก หนังสือที่ท่านไม่เคยแม้แต่จะพลิกอ่าน แล้วยอมจ่ายเงินไปก่อน เพื่อรอลุ้นว่าของจะได้หรือเปล่า (แต่คุณแป๋มก็ทำหน้าที่ได้ดี เป็นมืออาชีพ ไม่มีตกบกพร่องเลยนะครับ ไว้ใจเธอได้)

แบบนี้ ผมว่าหัวจิตหัวใจของท่านยิ่งใหญ่มาก
ท่านคิดดู...คนติดตามเฟสผมเกือบสองหมื่น แต่ท่านเป็นคนส่วนน้อย ไม่ถึง 10% ที่ยอมเสียตังค์สนับสนุนผลงานของผมแบบไม่คิดมากเนี่ย น้ำใจท่านท่านสุดยอดมาก ขอกราบคารวะมา ณ ที่นี้

ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องตอบแทนท่านด้วยการแชร์ความรู้ทั้งหมดเท่าที่ผมทุ่มศึกษามาส่งต่อไปให้ท่านมากที่สุดเท่าที่จะสามารถให้ได้
จะกั๊กทำไมกับคนที่มีน้ำใจกับเราแบบนี้

ปล. แค่ท่านแวะเข้ามาชมเฟส อ่านบล็อก แชร์งาน ผมก็นึกนิยมท่านอยู่ในใจเช่นกันนะครับ ถ้าไม่มีท่านคอยสนับสนุน like share ผมก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน

๒) ผมเชื่อว่าในโลกของการเทรด มันไม่มีสูตรสำเร็จ หรือ holy grail 
คือความรู้ที่ผมแชร์ไป ไม่ว่าจะผ่านหนังสือเล่ม หรือบทความออนไลน์ มันเป็นแค่ Data สำหรับท่านเท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่มีทางเอาไปใส่ถ้วยเติมน้ำร้อนแล้วเทรดรวยเลยแบบบะหมี่กึงสำเร็จรูปหรอกนะ

ท่านยังต้องมีงาน ยังมีขั้นตอนที่คุณต้องเอาไปเวิร์คต่ออีกหลายสเต็ป
ดังนั้นเนื้อหาที่ผมเอาไปใส่ในหนังสือ จึงมีทั้งภาคที่เป็นทฤษฎี และเผื่อทางหนีให้ท่านด้วย(ซึ่งตรงนี้แหละที่ท่านบอกว่าผมไม่กั๊ก)
เพราะจากประสบการณ์เทรดจริงเจ็บจริงของผม มันไม่มีอะไรสำเร็จรูปจริงๆ ตอนนี้ผมเชื่อว่าการเทรดคือการบริหารจัดการกับ "#ความน่าจะเป็น" เราคาดอนาคตไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องใช้อดีตมาเป็นข้อมูลอย่างมี bias ซึ่งอนาคตก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดก็ได้
ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำก็คือ มี scenario ดักเอาไว้หลายๆทาง เพื่อที่เราจะได้ลงมือถูกต้องตามแผนเมื่อเหตุการณ์เลือกทางแล้ว

ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าให้ต้องฟันธงว่าไอเดียผมมันเป๊ะสุดยอด ไม่ผิดเลย ไม่เผื่อทางหนีให้บ้าง ก็ถือว่าผมได้ทรยศตัวเอง และเอาเปรียบท่านอย่างแรง
ในหนังสือผมจะออกตัวเสมอว่า อย่าเชื่อผมมาก ท่านต้องคิดต่อนะ นี่เป็นแค่ไอเดีย อาจจะไม่เป็นไปในทางบวกก็ได้ ผิดทางก็หนีก่อน

ที่สำคัญเลย ผมต้องสารภาพกับท่านตรงๆเลยว่า การวิเคราะห์หลังเกมส์น่ะ จะลาก จะชี้ จะเฉลยอะไร มันก็ถูก มันเทพไปหมดแหละ
ซึ่งคนละเรื่องกับหน้างานเลย เพราะว่าท่านลงเงินจริงไปแล้ว ก็ต้องพะวงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเดาไม่ถูก
ตรงนี้แหละครับ ที่ scenario และ การมองเรื่องเทรดเป็นเกมความน่าจะเป็น จึงสำคัญกว่าการจำเพื่อนำไปใช้ทั้งดุ้น

๓) ผมก็เม่า
นี่สำคัญ หากท่านอ่านงานผม ก็น่าจะจับสังเกตได้ว่า มันอ่านง่าย เข้าใจง่าย เพราะผมเป็นเม่าไง ผมยังเดินดินกินข้าวแกงเหมือนๆท่าน ดังนั้นภาษาที่ผมใช้ มุมมองที่ผมฉาย มันก็เลยเป็นภาษาเดียวกับพวกท่าน ผมเจออะไรก็บอกท่านไปในภาษาที่ท่านไม่ต้องตีความมากมาย

เม่าคุยกับเม่า มันย่อมเข้าใจกันง่ายกว่ากูรูสอนเม่าอยู่แล้วครับ



ทำไมใครๆต่างบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการปล่อยของแบบไม่กั๊ก?
สนใจติดต่อสั่งซื้อหนังสือได้ที่เพจ zyobooks : facebook.com/zyobooks ครับ






หากท่านสนใจ หนังสือมีขายออนไลน์เท่านั้นครับ

"ส่งข้อความ" สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เพจ facebook.com/zyobooks ที่เดียวเท่านั้น



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

สรุปหนังสือ Trade Like a Casino