จำได้ว่าผมเคยชอบและหลงไหลอยากได้เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นซิ่งมาก จึงมักจะทำการศึกษา, หาจุดร่วม และเก็บประวัติหุ้นที่เคยซิ่งโหดในตำนานเอาไว้เสมอ และในช่วงนี้ที่ได้กลับมาศึกษาแนวทางการใช้ EMA จึงอยากย้อนอดีตไปทำการศึกษามันอีกรอบครับ
เริ่มที่ TSF
เคยสร้างเกียรติประวัติอันลือลั่นเอาไว้ด้วยการวิ่งเป็นสิบเด้งภายในเวลาเพียงแค่ 4 เดือน ในปี 2012 และพอจบรอบก็วิ่งวนกลับมาอยู่ที่เดิมจวบจนวันนี้
ภาพบน เป็นกราฟสรุปวงรอบของมันครับ ทำให้คุณเห็นสูงสุด คืนสู่สามัญ ของหุ้นตัวนี้
ต่อมาผมอยากชวนท่านดูรายละเอียดในช่วงขึ้นและจบรอบกัน
ในที่นี้, ผมเอาเส้น EMA10 มาใส่ ก็พบว่ามันออกมาค่อนข้างพอดี คือมันแสดงความเคารพเส้นสิบวันเป็นอย่างดีมาก เรียกว่าตั้งแต่ 0.25 จนถึง 3 บาท ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่มันละเมิด EMA10
นี่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของหุ้นซิ่งก็ได้ครับ
เมื่อตอนที่ราคาวิ่งขึ้น ไม่มีการละเมิด วิ่งฉิวเหนือเส้น EMA10
แต่พอได้ละเมิด ก็หลุดแนวโน้ม จากนั้นก็เคารพด้วยการชนแล้วเด้งลงอีกต่างหาก
แสดงว่า มีนัยยะจริงๆ
มาดู pattern ที่เราพอจะหาเจอในช่วงขาขึ้นบ้างครับ
จุดสังเกตที่เกิดขึ้นในกราฟนี้คือ วอลุ่มก่อนเลย มันมีแท่งวอลุ่มสูงพีค กระตุกให้เห็นหลายครั้ง ซึ่งเท่าที่ผมทำการบ้านย้อนหลังกลับไปดูหุ้นซิ่งหลายๆตัวก็จะออกทรงแบบนี้กันเป็นส่วนใหญ่
แต่วอลุ่มเข้าอย่างเดียวไม่พอหรอกนะครับ การเคลื่อนไหวของราคาต้องไปนทางเดียวกันด้วย
แต่ก่อนน่ะ พอผมเห็นวอลุ่มเข้าก็ทะเล่อทะล่าซื้อตามแล้ว ผลก็คือส่วนใหญ่ไม่วิ่ง มักเจอการขายทำกำไรขนาดหนักในวันต่อมา กลายเป็นว่าเราเข้าไปรับหุ้นของรายใหญ่เสียงั้น
จึงได้บทเรียนว่า ให้ดูทรงราคาก่อนเป็นหลัก จากนั้นค่อยเหลือบดูวอลุ่มจะดีกว่า คือถ้าการเคลื่อนไหวของราคามันทำดีและเหมาะสม เดี๋ยววอลุ่มก็จะตามมาเอง
เหมาะสมยังไง, ง่ายๆคือ หากมัน breakout ข้ามกรอบสะสมหรือฐานราคาที่เหมาะสม วอลุ่มก็มากตาม
อย่างเช่นกับตัว TSF นี้, มีวอลุ่มพีคหลายครั้งในช่วงก่อนเดือน Jun และ Oct
ถ้าใครเห็นวอลุ่มเข้าแล้วตามในช่วงปลายเดืิอน May ก็คงเจ็บหนัก เพราะวันต่อมาราคาก็ร่วงลงแบบสุดซอย เพราะอย่าลืมนะครับ นี่มันหุ้นต่ำบาท ลงแค่ช่องเดียวก็หลายเปอร์เซ็นต์แล้ว นี่เป็นแท่งแดงยาวก็หลายสิบเปอร์เซ็นต์แน่นอน ดังนั้นจำไว้เลยว่าวอลุ่มเข้าไม่พอ ราคาต้องได้ด้วย
เว้นไปจากนั้นอีก 4 เดือน คือปลายเดือน Sep วอลุ่มก็เข้าอีกแท่งสูงโด่ โดยคราวนี้ราคามีโมเมนตัมดี เคลื่อนไหวขึ้น หากท่านเจอแบบนี้ ก็ให้ความสำคัญเอาไว้เลยครับ รอดูทรงของมันต่อไป
เพราะโดยปกติแล้ว หุ้นที่วิ่งลง หรือออกข้าง อย่างยาวนาน มักจะไปตกม้าตายตอนที่ราคาวิ่งไปถึงจุดสูงสุดเดิมเสมอ ซึ่งมัักจะเป็นจุดสูงสุดที่ทำไว้ในรอบปี หรือ 52 week high เหตุผลง่ายๆคือ คนที่ได้หุ้นราคาต่ำๆคือซื้อได้ที่โลว์ หรือแม้แต่ smart money ที่รู้ข่าววงใน ก็อาศัยช่วงราคานี้เป็นจุดขายทำกำไรอยู่แล้ว เมื่อคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกัน ระดับราคานี้จึงมีนัยยะมาก ข้ามผ่านยาก ให้เรารอดูการย่อก่อนก็ได้
และถ้ามันย่อเพราะแรงขายจริง แล้วจากนั้นมันเด้งกลับ
ตอนนี้แหละที่น่าลุ้นครับ คือโอกาสที่มันจะผ่านได้มีสูงขึ้น เพราะคนที่หมดใจ คนเล่นรอบสั้น ได้ขายหุ้นออกไปจนหมดหน้าตักแล้ว ต่อไปก็เหลือแค่เพียงคนที่เชื่อว่าราคาจะไปต่อได้อีกเท่านั้น ซึ่งถ้ามันข้ามไฮเดิมไปได้จริงนะ เดี๋ยวคนที่ขายหมูตอนนั้นก็กลับมาช่วงซื้อร่วมด้วยช่วยกันอีกที ดังนั้น เรารอซื้อตอนที่ราคา breakout ได้ก็ยังทันครับ
ถ้าเราดูกราฟหุ้น TSF ข้างบนก็จะเห็นว่าในวันที่ราคาขึ้นไปชนระดับ 52 week high นั้นมันไม่ผ่าน แถมหุ้นที่ขายมีจำนวนมากเกินกดให้ราคาย่อทิ้งไส้ให้หวาดเสียวเสียอีก อีกทั้งในวันถัดมาราคาก็ย่อลงต่อเพราะมีหุ้นที่อยากขายเหลืออีกพอสมควร นี่แหละครับที่ผมบอกว่าระดับนี้มีนัยยะ ใครๆก็อยากขาย ดังนั้นมันจึงผ่านไปได้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้าหากว่าหุ้นตัวนั้นมันต้องการไปต่อจริง มันก็ต้องทำให้สำเร็จ
ซึ่งการที่มันจะไปต่อได้อีกนั้น, ผมแนะนำให้ดูอีกปัจจัย คือสภาพตลาดมันเอื้ออำนวนหรือเปล่าด้วย
คือถ้าตลาดคึกคะนองเป็นขาขึ้น หุ้น 3 ใน 4 ของทั้งตลาดขะเป็นขาขึ้นด้วย ยิ่งหุ้นที่แช่นอนก้นมานานหลายปี Market maker กลุ่มหนึ่งมักจะอาศัยจังหวะนี้แหละในการซิ่งเพื่อทำเงินกับรายย่อยผู้ไม่ประสา
ย้อนกลับไปดูเวลานั้นอีกทีนะครับว่า SET เป็นยังไง?
ขอยกกราฟมาให้ดูคู่กันเลยนะครับ
จะเห็นเลยว่าช่วง เดือน Oct นั้น SET เป็นขาขึ้นสุดคึกมากเลยนะครับ
แบบนี้ก็ไม่แปลกที่หุ้นที่เคยนอนก้นอย่าง TSF ถึงได้มีการสะดุ้งขึ้น วอลุ่มเข้าอย่างไม่คาดคิด
เพราะเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น หุ้น 3 ใน 4 จะเป็นขาขึ้นด้วยน่ะสิครับ
ดังนั้น ต่อไปเมื่อท่านเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง ก็ให้รอดูสัญญาณการเคลื่อนไหวของราคาและวอลุ่มจากหุ้นนอนก้นมาเป็นปีๆให้ดี ไม่ต้องไปซื้อดักที่จุดสูงสุดหรอก รอที่ 52 week high ยังทันครับ
อีกอย่างนะ หุ้นที่พื้นฐานไม่สวย หรือชาวบ้านเรียกว่าเน่าน่ะ มักจะวิ่งตอนที่ตลาดพักตัวในขาขึ้นครับ เพราะอะไรน่ะรึ? การจะดันให้ดัชนีบวกแรงอย่างต่อเนื่องก็ต้องไล่ราคาหุ้นใหญ่ Blue ship ให้บวกก่อน แล้วจากนั้น เมื่อได้กำไรจากหุ้น big cap พอใจแล้ว จึงเอาเงินนั้นมาปั่นหุ้นเล็กต่อไป
นี่เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง
ดูต่อ เทียบกับ SET พร้อมๆกันเลย
ในช่วงปลายเดือนNov ถึงต้นเดือน Dec นั้น SET ยังอยู่ในช่วงสร้างฐานราคาอยู่เลยนะครับ
แต่ TSF กลับออกสตาร์ทก่อนด้วยการเปิด gap แบบ breakaway gap วอลุ่มพุ่งกระฉูด แล้วจากนั้นก็ซิ่งแบบ non-stop ไปร่วมๆ 3 เด้งในเวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยมีเส้น EMA10 เป็นฐานรองรับการขึ้นแบบไม่หยุดครั้งนี้ และเมื่อมันไม่อยากไปต่อก็เลิกเคารพเส้นนี้ และดูให้ดีนะครับ ในช่วงของการทำจุดสูงสุดเพื่อแจกจ้ายหุ้นนั้น ราคาจะเริ่มสวิงแรง ถ้าท่านเจออาการแกว่งแบบนี้ให้เตรียมตัวเตรียมใจรอสัญญาณจบรอบให้ดีครับ ซึ่งสัญญาณทกิดกับ TSF คือราคาหลุด EMA10 ลงไปแล้วจบรอบเลยครับ
เมื่อคุณเงยหน้ามองขึ้นไปดู SET สักนิดนะครับ ช่วงที่ SET กลับตัวน่ะ (กลางเดือนมกราคม 2013 น่ะ SET เกิดอาการวอลุ่มพีคต่อเนื่องกันหลายวัน เหมือนจะทำ top pattern เช่นกัน แต่เขาไม่ยอมหมดกำลังหรอก TSF กลับลาโรงก่อนซะงัััััััััััััััััั้น
เออ....ผมลืมเทียบกันให้ดูตั้งแต่แรกเลยว่า ใครนำใคร
SET ทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก่อนนะครับ ต้นเดือน Sep ในขณะที่ TSF นิวไฮได้ในช่วงต้นเดือน Oct แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้ขึ้นมาจ่อและเขี่ย 52 week high รอตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ถือเป็นจังหวะที่ดีมากในการรอซื้อ
++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล. เนื้อหาในบทความนี้ อยู่ในหนังสือ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" ครับ
-------------------------------------------
----------------------
-------------
สนับสนุนโดยหนังสือหุ้นเทคนิคอลที่ปล่อยของแบบไม่มีกั๊ก
หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ และ หุ้นซิ่ง สวิงเทรด