จากคำบอกเล่าของเสี่ยยักษ์จุดต่ำสุดของ PTT คือ 28.75 กลมๆ 30 บาท จุดสูงสุดกลมๆ 440 บาท
วิ่งไกลมากกว่า 1300% ในเวลา 6 ปี จากนั้นก็วิ่งแกว่งขึ้นลงในลักษณะ sideway up กระทั่งในวันนี้ราคาก็ไปหยุดที่ 425 บา ซึ่งไกล้ๆไฮเดิมแบบหายใจรดต้นคอ และผมก็แอบคิดว่า ถ้า SET จะไปถึง 2000 จุดได้ PTT สมควรต้องถูกเข็นให้ All time high อย่างไม่ต้องสงสัย
ต่อมา ผมอยากชวนให้ท่านดูวอลุ่มในช่วง (A) กับ (B) ซึ่งเป็นช่วงที่ราคากำลังเปลี่ยนแนวโน้มจากการ Base 1 ซึ่งผมมองว่าเป็นช่วง Accumulation ตามหลักการของ Wyckoff Logic และจากนั้นมันก็ยกฐานขึ้นไปทีละนิด เป็น Base 2 และ Base 3 ไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นการสะสมเช่นกัน คือสะสมในขาขึ้น
เมื่อเราซูมมาเจาะดูช่วงนี้แบบจริงจัง ระดับราคา 38.25 หรือจะว่าไปแล้วผมคิดว่า 38 บาท น่าจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปให้ความสำคัญมากกว่า เพราะบางที 38.25 อาจจะเป็นการไล่ซื้อแค่เขี่ยๆไม่กี่ร้อยหุ้นก็ได้
จาก A ไป B จนถึง C นั้น 38 บาท มีส่วนพัวพันตลอดๆ
เนื่องจากเพราะมันเป็นระดับ All time high นั่นเองครับ เป็นราคาที่คนมองกำไรระยะสั้นให้ความสำคัญมาก เพราะพวกเขาจะคิดว่ามันไม่น่าผ่านไง ต้านใหญ่มาก ต้องขายเท่านั้น
ตั้งแต่จุด A มาแล้ว ราคาวิ่งขึ้นไปเขี่ยก็เจอถีบร่วงทันที
แต่ธรรมชาติก็มีจังหวะของมันเสมอ ฝนมีตก ก็มีหยุด เมื่อฝนหยุดอากาศปลอดโปร่ง สรรพสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ก็ออกมาหากิน ต่างเบิกบาน ราคาหุ้นก็เหมือนกัน เมื่อทุกอย่างเคลียร์ รายใหญ่เก็บหุ้นได้จนพอใจแล้ว คนขายน้อยลงจนไม่คุ้มที่จะรอแล้ว เขาก็ไล่ราคาขึ้นครับ พอราคาข้าม 45 บาทได้ ก็ซิ่งแรงเลย โน่นไปหยุดที่ 80 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขกลมๆ ถ้าคิดดูให้ดี ก็อาจจะเป็นหลักไมล์เด้งแรกจาก All time high ก็ได้นะ ที่คนเล่นรอบระยะกลางต้องการขาย ราคาก็เลยย่อแรงด้วยเหตุนี้ก็ได้
เพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่มโน ก็ต้องเปิดกราฟ SET ขึ้นมาดูประกอบว่าในช่วงนั้นเป็นยังไง
ก็จะได้เบาะแสเพิ่มว่า ตอนนั้นดัชนีตลาดบ้านเราวิ่งไปเจอต้านใหญ่คือ 500 นั่นเอง และแน่นอนจุดนั้นใครๆก็จ้องจะขายเพื่อล็อกกำไรครับ พวกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะผ่านไปได้ง่ายๆแน่ ซึ่งมันก็จริงครับ พยายามชนสองครั้ง แต่ก็ไม่ผ่าน ซึ่งความหวาดกลัวต่อดัชนีมันก็ส่งผลไปถึงราคาหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดครับ PTT ก็ไม่ยกเว้น (ไม่แน่ใจว่าตอนนั้น Market Cap จะมากพอที่จะชี้นำตลาดได้หรือยังนะ) มันย่อตามตลาดหลักครับ ซึ่งถ้าเราจำจังหวะการเข้าซื้อ PTT ของเสี่ยยักษ์ได้ ท่านก็น่าจะเข้าซื้อในช่วงนี้แหละ ตลาดย่อราคาหุ้นย่อ แต่ท่านมองว่าราคาหุ้นปตท.ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันโลก และตอนนั้นราคาน้ำมันก็วิ่งขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น PTT ต้องไปต่อได้อีก จากความเชื่อแบบนี้เองที่ทำให้ท่านกัดฟันเข้าซื้อสะสมหุ้นตัวนี้ตั้งแต่ 70 บาท และจากนั้นเมื่อมันขึ้นแกก็ซื้อเพิ่มจนได้ราคาเฉลี่ย 90 บาท ตามข้อมูลในหนังสือ
ซึ่งสิ่งที่เสี่ยยักษ์คิดไว้ก็ถูกต้องครับ แม้ว่าราคาหุ้น PTT จะซึมออกข้างนานกว่า SET ที่ย่อสองขยักแล้วเด้งขึ้นทันที แต่ PTT กลับ sideway อยู่สามเดือนก่อนที่จะดีดขึ้นแรงครับ ซึ่งพอมันดีด SET ก็ร่วงแรง (เดือน Oct) แท่งราคาก็เลยร่วงทิ้งไส้ยาวลงไปปิดที่ 90 บาท จากนั้นก็ย่อตาม SET ไปตามระเบียบ
และเมื่อดัชนีดีดขึ้น PTT ก็ขึ้นตาม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ด้วยเพราะการเคลื่อนไหวของ PTT สอดคล้องและอิง SET แทบทุกจังหวะที่เองครับ เมื่อดัชนีทำจุดสูงงสุด (1) และกลับตัว ปตท.ก็เอาด้วยครับ จำได้มั้ยว่าตอนนั้นเสียยักษ์ท่านไม่ได้ขาย เพราะว่าท่านมองว่ามันยังมีโมเมนตัมอยู่ น่าจะไปต่อได้อีก เป็นผมก็ไม่ได้ขายครับ เพราะตอนนั้นน่าจะโคตรฟิน คิดว่าการย่อในครั้งนี้น่าจะย่อเพื่อไปต่อทำกำไรให้เราได้อีกไงครับ
แต่เมื่อเราดูเทียบกับดัชนี พบว่า SET ดีดขึ้นไปทำ double top ด้วยระดับที่สูงกว่าเดิมเล็กน้อย (จุด 2) แต่ก็ยืนไม่อยู่ทิ้งไส้นกลับลงมาเล่นในกรอบ
ตรงข้ามกับ PTT ครับ ตัวนี้ไม่ยอมดีดกลับขึ้นไปนิวไฮ แล้วทิ้งไส้ตาม มันกลับเด้งแบบอ่อนแอมาก เจอแบบนี้ก็น่าจะขายจริงๆครับ
แต่กระนั้น, ผมไม่แน่ใจว่าเสี่ยยักษ์ของผม แกจะขายตอนไหนนะ อาจจะเป็นแท่งแดงยาวกลับตัวจากจุด (1) ก็ได้ เพราะแกบอกว่า ราคาย่อด้วยวอลุ่มสูงแบบนี้ ขายล้างพอร์ตออกไปก่อน
และจากนั้นไป SET ก็ร่วงลงไปทำนิวโลว์ เหมือนจะจบรอบ โดย PTT ก็ลงตามเช่นกันครับ
แต่...เมื่อหุ้นเป็นขาขึ้นแล้ว มันจะไม่ยอมลงยกเว้นว่าจะเจอของแข็งขวางไม่ให้ไปต่อครับ
จากที่เสี่ยท่านขายหุ้นออก PTT ย่อจริงครับ แต่ไม่ลงหนักจนจบรอบ มันแค่พักฐานใหญ่เท่านั้นเอง หลักฐานก็คือมันไปย่ำที่โซน 150 บาทหลายเดือน ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปหาไฮเดิม (และดู้หมือนจะทำ cup with handle ด้วยนะ) จากนั้นก็ดีดต่อไปทำ All time high แต่ก็ไม่ได้วิ่งแรงกำไรเร็วอีก มันทำ sideway up เป็นขาขึ้นไปแบบเงียบๆ จนไปหลุดที่ไกล้ๆ 275 บาท ก็ขึ้นจาก 150 ไปเกือบเด้งเหมือนกัน
ซึ่งตามหลักการของผมแล้ว จะไม่ได้ซื้อที่ 200 บาทหรอกครับ เพราะไม่มีภูมิรู้ที่เทพขนาดนั้น แม้จะได้ซื้อก็คงทนถือได้ไม่นานเพราะคงได้อึดอัดขายทิ้งที่สองร้อยกว่าบาทแน่นอน
เอาเป็นว่าเราไปดูจังหวะที่จับต้องได้ แม้คนจบป. 4 ก็เห็นตรงกันดีกว่าครับ
ตรงนั้นก็คือช่วงที่ราคามันทำ All time high false breakout นั่นแหละครับ
ที่ผมชอบจุดนี้เพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวโน้มครับ คือมันต้องเลือกว่าจะย่อกลับลงไปอยู่ในกรอบต่อแบบคนขี้แพ้ หรือจะดีดกลับขึ้นไปสูดอากาศข้างบนแบบผู้ชนะเขาทำกัน
และเมื่อ PTT แสดงออกด้วยการดีดขึ้นไปทำ All time high ด้วยการข้ามระดับ false breakout ขึ้นไปได้ เราก็ตามครับ เพราะเขาเลือกวิ่งไปทางตามที่เราหวัง คือทางของผู้ชนะ
จากนั้นมันก็วิ่งขึ้นดีครับ จาก 280 ไป 330 ก็ 50 บาท ประมาณ 17% แต่ด้วยดัชนีมันเจอแรงขายหนักมากครับ ก็คิดว่าน่าจะมาจาก PTT นี่แหละ เพราะตอนนี้ผมคิดว่า Market Cap น่าจะมากพอที่จะชี้นำ SET ได้แล้วนะ
โอเค แม้ว่า PTT จะลงไปหลุดระดับ handle ที่เราซื้อไปได้ แต่อีกสองวันมันก็ดีดกลับขึ้นไปได้ครับ และจากนั้นราคาก็ดีดแรงวิ่งพรวดๆขึ้นไปทำ All time high เพราะอะไรครับ ทำไมถึงเด้งที่จุดนี้ท่านรู้มั้ย?
EMA100 นี่เองครับ ที่ทำให้คนใจถึงบางคนทนถือได้ พวกเขาไม่ได้บรรลุธรรมอะไรหรอก การที่ราคาลงไปหลุดเส้นร้อยวันลงไปในระหว่างวันแต่มีการซื้อกลับขึ้นไปปปิดเหนือเส้นนี้ได้ภายในสิ้นวัน ก็ถือว่ามันเคารพเส้นค่าเฉลี่ย และมีโอกาสไปต่อและทำ All time high ได้ครับ ซึ่ง PTT ก็ทำได้
จุดขายอยู่ตรงไหน (ถ้าดูย้อนหลังนะ บอกก่อน)
มันมีจังหวะบอกเบาะแสการจบรอบให้เราเห็นอยู่นะ เริ่มจากราคาเปิดโดดทำ Exhausting gap วอลุ่มพีค ก็เป็นสัญญาณการเข้าซื้อที่ผิดจังหวะของเม่า ตามแนวคิด Contrary Opinion ครับ สาเหตุน่าจะมาจากข่าวหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เม่าเฮโลเข้ามาแย่งซื้อหุ้นกัน มันเปิด gap สองครั้งด้วยครับ แบบนี้น่ากลัว
และเมื่อราคาวิ่งขึ้นแรงก็จะมีการขายทำกำไรจากนักลงทุนที่เข้าใจสภาพแวดล้อมครับ ดูแท่งแจกจ่ายที่ผมชี้ให้ดูนะครับ มันเปิด gap ขึ้นไปหาไฮเดิมแต่ไม่ไปต่อ เจอขายหนักทำแท่งแดงยาว นี่ก็สื่อว่าเป็นสัญญาณการแจกจ่าย และวันต่อไปมันเปิด gap ลงไปต่อ โดยวอลุ่มพุ่งสงมาก ก็ให้นึกตามสูตรเสี่ยยักษ์ไว้ครับตอนที่แกขายหุ้นครั้งนั้น ว่าถ้าเห็นย่อแล้ววอลุ่มพีค ต้องล้างพอร์ตหนีก่อน
ท่านจะได้ขายมากกว่า 400 บาท