ถ้าใครชอบอ่านหนังสือธุรกิจ เปิดเล่มนี้จะผ่านไปได้อย่างสนุก เพราะมีเคสบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้วยวิธีเจ๋งๆ ได้ไอเดีย ใหม่ๆ วิธีคิดที่น่าสนใจมากมาย
เป็นเอกสารอ้างอิงได้ดี เอาไว้ดูโอกาสของหุ้นที่เราสนใจว่ามีจุดอ่อน/แข็งตรงไหนบ้าง
โดยเฉพาะบทที่ ๙-๑๖ มีเนื้อหาที่เอาไว้เช็คกับบริษัทในตลาดบ้านเราได้เลย
ไอเดียหลักของการลงทุน ๒ ทาง ที่จะเอาชนะตลาดได้จริงๆ
๑. ซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และรอจนกว่าตลาดรับรู้มูลค่านั้น
๒. ซื้อหุ้นบริษัทที่เพิ่มพูนมูลค่าที่แท้จริงได้ไวกว่าที่อื่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะบริษัทเหล่านั้นมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งและเติบโตดีกว่า
ป้อมปราการ หรือความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจทั้ง 5 ประเภท + วิธีการตั้งคำถามเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มความแข็งแกร่ง
๑) ความได้เปรียบทางต้นทุน
ซัพพลายเออร์ มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นหรือไม่?
บริษัทมีขั้นตอนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมั้ย?
มีสินค้าทดแทนที่ทำได้ถูกกว่าหรือไม่?
๒) สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ลูกค้าเต็มใจที่จะซื้อสินค้าเพราะแบรนด์มากน้อยแค่ไหน?
สิทธิบัตรนั้นง่ายต่อการลอกเลียนแบบหรือเปล่า?
๓) ต้นทุนการเปลี่ยนย้าย
พัฒนาการทางเทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมของอุตสาหกรรมและทำให้ต้นทุนการเปลี่ยนย้ายโดยรวมลดลงหรือไม่?
เงื่อนไขในสัญญายาวขึ้นหรือสั้นลง?
ผลิตภัณฑ์มีการปรับให้เข้ากับลูกค้าเฉพาะรายมากน้อยเพียงใด?
๔) ขนาดที่มีประสิทธิภาพ
ถ้าขนาดตลาดโตขึ้น คู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาได้ง่ายหรือยาก?
๕)พลังของเครือข่าย
ผู้ใช้มีความผูกพันต่อแบรนด์มากน้อยแค่ไหน?
ลูกค้าสามารถได้รับประโยชน์อย่างเดียวกันนี้จากแบรนด์อืนๆหรือไม่
ตลาดของธุรกิจนั้นถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมตลาดแบบผู้ชนะกินเรียบหรือไม่?
ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายขึ้นมาเองโดยการร่วมมือกันตัดคนกลางออกไปได้หรือไม่?
การประเมินตำแหน่งในการแข่งขันให้ถูกต้องนั้น สำคัญยิ่งที่จะดูว่า "ที่มาของป้อมปราการของบริษัท" เปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่ มากกว่าที่จะดูเพียง "การเติบโตของรายได้เท่านั้น"
สินค้าโภคภัณฑ์ ผลิตสินค้าที่ไม่มีความแตกต่าง, "ราคา" คือทุกสิ่งสำหรับผู้บริโภค ดังนั้น, ความสามารถที่จะผลิตด้วยต้นทุนต่ำกว่าราคาตลาดขณะนั้น ก็แทบจะเป็นวิธีเดียวที่จะได้ผลตอบแทนเหนือต้นทุนได้ เช่น มาจากขนาดการผลิตที่ใหญ่เครือข่ายครอบคลุม และกระบวนการผลิตที่ให้ประสิทธิภาพสูง
ความได้เปรียบจากต้นทุนต่ำที่ยั่งยืน คือหัวใจของผู้ชนะ
สินค้าและบริการเพื่อผู้บริโภค (Consumer Products)
แบรนด์ คือหัวใจของธุรกิจนี้ ให้นึกถึง โค้ก ไฮนส์ มาร์โบโร่ ลูกค้าเต็มใจจ่ายราคาแพงเพื่อให้ได้ใช้แบรนด์ที่ต้องการ
การประหยัดต่อขนาด (economy of scale) และได้อำนาจต่อรองที่ทำให้ต้นทุนของตนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า ระบบการกระจายสินค้าทำได้ดีก็มีส่วนช่วย ขยายส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น ที่สำคัญต้องหมั่นพัฒนาสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคต้องรู้สึกว่าการพัฒนานี้ได้เพิ่มคุณค่าเข้าไปในผลิตภัณฑ์ด้วย
พลังงาน ราคาโภคภัณฑ์มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมพลังงาน และเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมนี้มีความผันผวนตามวัฏจักรสูง โดยที่การเปลี่ยนแปลงของอุปทานและอุปสงค์เพียงเล็กน้อยสามารถมีผลกระทบวงกว้างต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และกำไรของบริษัทในระยะสั้น ดังนั้น #ความได้เปรียบทางต้นทุน จึงเป็นหัวใจของ ผู้ชนะ
ธุรกิจการเงิน มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ตั้งราคาเองไม่ได้ มีการตัดราคากันรุนแรง สิ่งที่บอกความได้เปรียบคือ เครือข่ายสาขาที่กว้างขวาง สะดวก หรือ มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นลึกซึ้งกับลูกค้า #ความได้เปรียบทางต้นทุน ก็ยังมีความสำคัญยิ่ง เพราะอำนาจการตั้งราคามีจำกัด จึงต้องอาศัยการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงจะได้เปรียบกว่าบริษัทอื่น
การดูแลสุขภาพ (Healthcare) สิทธิบัตรยาคือป้อมปราการที่เด่นชัดสำหรับบริษัทยา การวิจัยและพัฒนาคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังนั้น แต่ก็ต้องไม่ลืมในเรื่องของขนาดที่มีประสิทธิภาพ และความได้เปรียบทางด้านต้นทุนด้วย
การจัดการขยะและของเสีย จะได้เปรียบก็ต่อเมื่อมีการควบคุมวงจรได้ครบ ต้องเป็นเจ้าของหลุมฝังกลบ เตาเผา และศูนย์รีไซเคิล
ความหนาแน่นของจุดเก็บตามเส้นทางเก็บขยะก็ถือเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบ
สาธารณูปโภค ป้อมปราการคือ สัมปทานจากภาครัฐ
แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม