Posts

Showing posts from July, 2017

การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

Stan Weinstein' Method

Image
แนวคิดทางการเทรดของปู่ Stan Weinstein เป็นสไตล์เดียวกับ Jesse Livermore และ Nicolas Darvas ด้วยการพยายามระบุแนวโน้ม(stage)ของตลาดให้เป็นขาขึ้นก่อน จากนั้นจึงหากลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง สุดท้ายจึงหาหุ้นรายตัวที่แข็งแรงที่สุดในอุตสาหกรรมแกร่งนั้น สรุปง่ายๆคือซื้อหุ้นแบบ top down (เริ่มจากสภาวะตลาด,กลุ่มอุตสาหกรรมและจบที่หุ้น)             เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่มาร์ค มิเนอร์วินี ในเรื่องของ stage หรือการระบุแนวโน้มของราคาหุ้น และแน่นอน, งานเขียนของผมที่ท่านจะได้อ่านก็จะเอาแนวคิดของท่านส่วนหนึ่งมาประยุกต์เช่นกัน            โดยหนังสือที่ดังสุดๆของแกก็คือ Secrets for Profiting in Bull and Bear Markets ที่แสดงไว้ในรูปซ้ายมือท่านนั่นแหละครับ มาดูแนวคิดหลักๆของแกเลย ปู่ Weinstein ใช้เครื่องมือพื้นฐาน 5 ข้อต่อไปนี้ในการวิเคราะห์หุ้นรายตัว ๑) มีแนวต้านในหนทางข้างหน้าน้อยสุด ๒) มีความแข็งแรงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด โดยดู Relative Strength ๓) ราคาหุ้นเข้าสู่ขาขึ้น: โดยใช้ เส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์เป็นตัวกรอง ๔) ราคาหุ้น breakout ...

วิธีหาหุ้น(ที่น่าจะ)เติบโต แบบเม่าๆ

Image
หุ้นเติบโต เป็นหุ้นที่ Smart Money ชอบมาก เพราะความที่มีศักยภาพในการทำกำไรดี แข็งแกร่ง และโตได้ต่อเนื่อง ถือยาว(เป็นปี)ได้ถ้างบยังดูดีและโตได้อีกในอนาคต ปล. (ตอบดักไว้ก่อน) Smart money ก็คือเหล่านักลงทุนระดับมันสมอง เงินเยอะ ข้อมูลแยะ เล่ห์เหลี่ยมจัด มีจำนวนน้อย แต่สามารถคุมเกมส์ของตลาดหรือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งได้อย่างหมดจด เท่าที่อ่านมานะ ผมชอบไอเดีย 2 เล่ม เพราะมันมีตัวอย่างที่เห็นได้ในบ้านเรา แต่ออกตัวก่อนนะว่าผมไม่ใช่วีไอ มุมมองทั้งหมดในโพสต์นี้มาจากมุมมองเม่าล้วนๆ คือเอาแบบมองเห็นด้วยตาเปล่าและหัวใจซื่อๆนี่แหละ เผื่อคุณจะได้เอาไปต่อยอดเสาะส่ายหาเอง 1) สไตล์พี่ Mark Minervini ถ้าใครอ่านหนังสือ เทรดแบบเซียนหุ้นให้ได้กำไรขั้นเทพ ของพี่มาร์ค น่าจะจำ " ธุรกิจแม่พิมพ์กดคุ๊กกี้ " กันได้ ถ้าใครไม่คุ้น ผมจะสรุปให้อ่านคร่าวๆดังนี้ ๑) มีการขยายสาขา เยอะๆ ๒) ยอดขายต่อสาขาโตเรื่อยๆ (Same-store sales growth - SSSG) แบบนี้บ้านเรามีพอสมควรเลย ประเภที่เปิดสาขาเนี่ย แต่ก็มีทั้งกำไรทรงๆ และโตได้เรื่อยๆ พวกกำไรทรงๆกับทรุดๆเนี่ยตัดทิ้งไปเลย กำไรไม่โต smart money ไม่ชอบ ...

Why Moats Matters หุ้นดีต้องมีปราการ

Image
ถ้าใครชอบอ่านหนังสือธุรกิจ เปิดเล่มนี้จะผ่านไปได้อย่างสนุก เพราะมีเคสบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้วยวิธีเจ๋งๆ ได้ไอเดีย ใหม่ๆ วิธีคิดที่น่าสนใจมากมาย เป็นเอกสารอ้างอิงได้ดี เอาไว้ดูโอกาสของหุ้นที่เราสนใจว่ามีจุดอ่อน/แข็งตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะบทที่ ๙-๑๖ มีเนื้อหาที่เอาไว้เช็คกับบริษัทในตลาดบ้านเราได้เลย ไอเดียหลักของการลงทุน ๒ ทาง ที่จะเอาชนะตลาดได้จริงๆ ๑. ซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และรอจนกว่าตลาดรับรู้มูลค่านั้น ๒. ซื้อหุ้นบริษัทที่เพิ่มพูนมูลค่าที่แท้จริงได้ไวกว่าที่อื่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะบริษัทเหล่านั้นมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งและเติบโตดีกว่า ป้อมปราการ หรือความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจทั้ง 5 ประเภท + วิธีการตั้งคำถามเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มความแข็งแกร่ง ๑) ความได้เปรียบทางต้นทุน ซัพพลายเออร์ มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นหรือไม่? บริษัทมีขั้นตอนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมั้ย? มีสินค้าทดแทนที่ทำได้ถูกกว่าหรือไม่? ๒) สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ลูกค้าเต็มใจที่จะซื้อสินค้าเพราะแบรนด์มากน้อยแค่ไหน? สิทธิบัตรนั้นง่ายต่อการล...

ลงทุนแบบ Techno Fundamentalist

Image
Mark Minervini เจ้าของหนังสือ Trade Like a Stock Market Wizard: How to Achieve Super Performance in Stocks in Any Market หรือภาษาไทยเรียกว่า เทรดแบบเซียนหุ้นให้ได้กำไรขั้นเทพ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีมากโดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่เป็นแฟนของวิลเลียม โอนีล, Wyckoff และ Livermore เขาเรียกตัวเองว่า T echno Fundamentalist ที่ยึดการเคลื่อนไหวของราคากับวอลุ่ม พร้อมๆกับข้อมูลทางพื้นฐาน ในการสร้างเงินจากการเทรด แนวทางคล้าย CANSLIM เพราะเขาเรียนรู้วิธีการดูหุ้นหุ้นผู้ชนะมากมายจากปู่โอนีล ซึ่งพี่มาร์ค น่าจะเป็นศิษย์เอกของปู่โอนีลได้เลย เพราะนอกจากจะเอาแนวคิดไอดอลมาต่อยอดแล้ว ก็ยังทำให้เป็น นวตกรรม หรือเครื่องหมายการค้าของตัวเองได้อีก Techno Fundamentalist ผมคิดว่าแนวคิดของพี่มาร์คนั้น ไม่ได้เน้นไปที่การคำนวนมูลค่าหุ้นมากนัก แต่ก็ไม่ละเลยไปเสียทีเดียว คือรู้ว่าธุรกิจนั้นทำอะไร สถาบันชอบมั้ย และที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาให้ความสำคัญกับกราฟมากกว่า โดยบอกว่า " มูลค่าหุ้นไม่ได้ดันราคาหุ้นขึ้นหรอก แต่เป็นคำสั่งซื้อ มูลค่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการตัวเลข ท้ายสุดแล้ว แรงซื้อเป็...

จ่ายตลาดตอนตี 5

Image
โดย เซียว จับอิดนึ้ง : facebook.com/zyoit มีประโยคของเสี่ยยักษ์ที่ผมได้ยินบ่อยๆ และอยากเอามาตีความต่อยอด คือ "จุดอันตรายที่สุด คือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด" กับ "จ่ายตลาดตอนตี 5" ถือว่าท่านมีวิธีคิดที่ contrarian หรือสวนตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งใครก็ตามที่คิดแบบนี้ได้และเข้าได้ถูกจังหวะ ต้องมีประสบการณ์ที่โชกโชน อีกทั้งมีมุมมองที่แปลกแยกจาก Mass พอสมควรเลย (แต่กระนั้น, ไม่ใช่ทุก panic จะเป็นโอกาสเสมอไปนะครับ ต้องดูที่มาหรือบริบทด้วย) ความแปลกแยกที่ว่านี่คือ "การคิดสองชั้น" คือนอกจากจะอ่านตลาดขาดแล้ว ก็ยังคิดต่อเดาใจนักลงทุนส่วนใหญ่จะทำยังไงด้วย นี่คือความคิดของคนที่ผมเรียกว่า Smart Money ครับ ไอเดียหลักของสูตรนี้คือ การเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่คนกลัวสุดๆ โดยจับหลักที่ว่า "จุดที่อันตรายที่สุด คือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือ ประมาณ “ตี 5″ ถึง “ตี 5 ครึ่ง” เพราะเวลานั้นคนน้อย ของถูกและดีมีเยอะเราสามารถเลือกจับจ่ายได้ตามใจชอบเท่าที่กำลังเงินเราพอมี เมื่อหันมามองถึงการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้น คนที่จะไปจ่ายตลาดได้ก็ต้องมีของอยู่ 2 สิ่งเป็...

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)