เขียนโดย
เซียว จับอิดนึ้ง เพจ zyo ครับ
ว่าจะทำตัวว่างๆสักวัน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขียนบทความที่ต่อเนื่องจากประเด็นของ Pocket Pivot Buy Point เพราะไปเจอประเด็นของ COL พอดี
(ขออกตัวก่อนนะว่า ผมจงใจใส่เครื่องหมายคำถามตามหลัง Insider Pocket Pivot Buy Point เพราะมันเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ผมไม่รู้ว่าคนที่สร้างสัญญาณนั้นเป็นใคร หรือว่าจะเป็น insider แค่นั้นเอง ไม่ได้เจาะจงว่าหรือโจมตีใครทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้เหตุผลที่ผมอยากจะสื่อก็คือ ยกมันเป็นเคสให้ท่านใส่ใจสัญญาณ Pocket Pivot Buy Point ไว้บ้าง เพราะมันอาจจะมีอะไรดีๆตามมาหลังจากนั้น
คืองี้ครับ ถ้าท่านได้อ่านบทความ
Buying in the pocket ที่โพสต์ไปก่อนหน้านี้ จะมีช่วงหนึ่งที่เขาอ้างถึงการกระทำหรือร่องรอยของ insider ที่ทิ้งเบาะแสให้เห็นผ่านแท่ง Pocket Pivot
ในบทความนั้นจะเขียนถึงเคสของหุ้น ISRG ที่มีการส่งสัญญาณชวนซื้อก่อนประกาศงบซึ่งมันดีมาก (แต่ตอนนั้นนักลงทุนทั่วไปไม่รู้)
เขาบอกว่างี้ครับ....
".....
แม้จะยังไม่ได้มีการประกาศงบออกมาเป็นทางการ แต่สิ่งที่ได้แสดงออกผ่านราคาหุ้นและปริมาณการซื้อขายก็ได้ส่งสัญญาณด้วยการพาราคาขึ้นไปปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันอย่างแข็งแรง พร้อมกับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น(ในรูปก็เป็นจุดที่ลูกศรชี้นั่นแหละครับ)"
.
"....
หากหุ้นมีการแสดงอาการ pocket pivot ที่มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งในช่วงใกล้วันประกาศงบ จุดซื้อที่ดีของคุณก็คือตอนนั้นแหละ...."
ครับ keyword ของทั้งสองประโยคนี้ก็คือ
ก่อนที่ข่าวดีจะถูกประกาศออกไปสู่สาธารณะ มักจะมีใครบางคนที่แอบรู้มาก่อน และเข้าซื้อหุ้นเก็บเอาไว้ เพราะมั่นใจว่า ถ้าคนอื่นรู้ก็ต้องไล่ซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง เพราะมันมีนัยยะต่อราคาหุ้น
มาดูเคสของ COL กันนะครับ
ดูในรูปที่ผมชี้ ว้นที่ 4 เมษายน 2560 ไว้นะครับ
วันนั้นแท่งราคาเขียวยาวที่เด้งต่อเนื่องขึ้นมาจากจุดต่ำสุด 3 วันติด ดันไปปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน พร้อมกับวอลุ่มที่สูงกว่า 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งมันเข้าสูตร Pocket Pivot Buy Point เป๊ะๆเลย
ทั้งที่วันนั้น สาธารณะยังไม่รู้ระแคะระคายอะไรเกี่ยวกับการเลิกทำธุรกิจออนไลน์เลย
พอมาวันที่ 5 ก็เกิดแท่งเขียวยาวเฟื้อย ไม่แน่ใจวิ่งลิ่งหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าน่าจะเกือบๆ
เพราะข่าวจากห้องประชุมผู้ถือหุ้นนี้ครับ ซึ่งมันเกิดหลังเปิดประชุมคือบ่ายสองโมงไปแล้ว
ปล. ก่อนให้ข้อมูลวาระนี้ มีคำขอร้องกันนิดหน่อย ว่าให้อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งถาม
บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมราคาหุ้นถึงวิ่งอย่างบ้าคลั่งด้วยล่ะ?
ก็เนื่องเพราะธุรกิจออนไลน์ที่ COL ดำเนินอยู่นั้นมันไม่กำไรน่ะสิ หนำซ้ำยังขาดทุนจนถ่วงกำไรที่สวยงามอันเกิดจากการทำธุรกิจดั้งเดิมคือ OfficeMate กับ B2S ที่โตทุกปี
เมื่อตัดเนื้อร้ายออก มันก็เข้าสูตร turnaround ทันทีสิครับ สิ่งนี้แหละที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกพอใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจนไล่ซื้อกันอย่างกลัวไม่ได้หุ้นไง
ทีนี้ ผมก็ชักจะเริ่มอยากรู้ว่า เขามีการแอบเก็บกันยังไงแบบไหน?
ด้วยความที่เพิ่งเช็คกราฟวันนี้นะ ก็เลยดูย้อนหลังได้จำกัด ไม่สามารถดูในระดับ 1 นาทีได้ ก็เลยเริ่มที่ 5 นาที
เอาที่สังเกตุเห็นชัดก่อนนะ
(1)
มีการไล่ซื้อตั้งแต่เปิดตลาดกันเลย ถามว่าใครซื้อ ขอสันนิษฐานไปยังคนสองกลุ่ม
๑. คนที่รู้จัก pocket pivot buy point เพราะเห็นสัญญาณบอกตั้งแต่วันที่ 4
๒. ไอ้โม่งที่รู้ข่าวก่อนชาวบ้าน อาจจะนั่งทางในหรืออะไรก็แล้วแต่
(2)
เกิดการไล่ซื้ออย่างบ้าคลั่ง ตรงนี้ไม่ต้องสงสัย ว่าคนซื้อก็คือผู้ถือหุ้นที่อยู่ในห้องประชุม และเครือข่ายที่ได้รับข่าว เพราะมันเกิดในช่วงที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งปิด 16.30
คลิกไปอ่านรายละเอียดบันทึกการประชุมได้ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ
(3)
ราคาเปิด gap แน่นอนว่า ต้องเป็นสาธารณชนที่เพิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุผลที่ราคาวิ่งแรงจนเกือบลิ่ง มันถูกนักข่าวเผยออกให้ทุกคนที่สนใจได้รับรู้ และกระจายปากต่อปาก
ยังมีอีกจุดที่ผมสงสัยว่า ทำไมมันถึงเกิด Pocket Pivot Buy Point ในวันที่ 4 เมษายน ก่อนประชุม
มาดูกราฟกัน เอา 5 นาทีก่อนนะ
ผมอยากให้สังเกตุวอลุ่ม(ที่ผมทำวงรีครอบไว้นะ) มันกระตุกขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเป็นระยะๆ (จากที่วันก่อนน้านี้มันก็ไม่มีแท่งสูงๆแบบนี้ให้เห็น) แสดงออกถึงการสะสมแบบเงียบๆ บางท่านอาจจะแย้งว่ามันก็ไม่ชัดเท่าไหร่นะ อาจจะมีคนบ้าโง่ๆเข้ามาซื้อเล่นๆก็ได้ คุณคิดมากไปเอง
ใช่ครับ...ผมอาจจะมั่วไปเองเพราไม่รู้จริงๆว่าใครทำและเหตุผลเพื่ออะไร แต่สิ่งเล็กๆเหล่านี้มันก่อให้เกิดสัญญาณพิเศษที่พี่ Chris Kacher เรียกว่า Pocket Pivot Buy Point ซึ่งเป็นการส่งซิกให้ซื้อได้ เท่านั้นเอง
เผื่อบางคนสงสัยว่า วอลุ่มเพิ่งสูงขึ้นวันที่ 4 แน่หรือ มันอาจจะสูงแบบนี้เป็นปกติก็ได้ ดูกราฟ 15 นาทีย้อนหลังได้ครับ
ชัดนะครับ ว่าก่อนหน้านั้น แทบไม่มีใครเล่นเลย มันมีโดดเด่นก็ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน นี่แหละ
ขอสรุปข้อคิดที่ผมได้และอยากจะแชร์ให้ผู้อ่านได้รู้
๑) เคสของ COL ในวันนั้น ถือเป็น pattern ความไม่เท่าเทียมกันของการรับรู้และกระจายข่าว ซึ่งมันจะเริ่มจากคนกลุ่มน้อย ใหญ่ขึ้นอีกนิด และสาธารณะ
แน่นอนคนกลุ่มน้อยก็คือคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด กำไรมากที่สุดเสมอ โดยกลุ่มนี้ก็มักจะเป็น Insider หรือ Smart Money เสมอ
หน้าที่ของนักเก็งกำไรผู้มุ่งมั่น คือไม่เสียเวลาไปนั่งโทษความไม่เท่าเทียมครับ มันไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
ควรพยายามหาเบาะแสและวิธีการเพื่อที่จะตามรอย Smart Money ให้ไกล้ชิดที่สุดดีกว่าครับ
ซึ่งตรงนี้แหละจะทำเงินให้เรา และหนึ่งในวิธีง่ายๆที่จะตามรอยให้กระชั้นที่สุดก็คือ "ดูวอลุ่ม" นี่แหละ
๒) Pocket Pivot Buy Point ประยุกต์ใช้กับหุ้นไทยได้ครับ นี่เป็นเพียงเคสหนึ่งในร้อยในพันเท่านั้น