COMAN นับว่าเป็นหุ้นที่มาจากธุรกิจแปลกใหม่ที่ตลาดบ้านเราไม่เคยมีมาก่อน เป็นผู้ผลิต ซอฟท์แวร์!!
ใช่ครับ อย่าเพิ่งคิดเหมารวมว่ามีแต่ฝรั่งเท่านั้นที่สามารถมีไอเดียดิจิตอลระดับสูงได้พวกเดียว บ้านเรานี่ไม่แพ้ใครเลยในเรื่องนี้(ผู้บริหารบอกน่ะ จากคลิปข้างล่างนี้)
ในเนื้อวิดีโอที่ว่านี้ คุณสมบูรณ์ ผู้ที่เป็น CEO บอกว่าการที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ ไม่ได้เอาเงินไปใช้หนี้(แบบที่บริษัทอื่นเขาทำกัน)นะฮะ พี่เค้าบอกว่าจะเอาเงินที่ได้จากการขาย IPO ไป "ซื้อกิจการ" เพื่อให้ครบวงจรการท่องเที่ยว คือก่อนหน้านี้น่ะ COMANCHE ทำเฉพาะซอฟท์แวร์บริหารโรงแรม (Hotel Management System) ครบวงจร ที่ขายไปแล้ว 18 ประเทศ แต่ด้วยความที่ CEO เขามองว่าจริงๆแล้วนักท่องเที่ยวน่ะ ไม่ได้มานอนโรงแรมอย่างเดียวน่ะสิ กลางวันก็จะไปตีกอล์ฟ สปา หาร้านอาหาร ก็เลยอยากระดมทุนที่ได้ไปขยายกิจการ ไม่ว่าจะร่วมทุนกับผู้ผลิตซอฟท์แวร์ หรือจะซื้อก็แล้วแต่ ตั้งเป้าไว้ภายใน 3 ปีนี้ จะสามารถรวมแต่ละ software มาให้กลายเป็น one stop service ที่เดียวจบ
เงินอีกส่วนจะไปขยายตลาดต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีลูกค้า 18 ประเทศ แต่มีดีลเลอร์แค่ 7 ประเทศ อยากขยายไปอยู่ทุกประเทศเลย
ต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่คนอย่างเดียว ไม่มีสต็อกสินค้า งานจะหนักตรงที่ให้โปรแกมเมอร์มา develop program เมื่อทำเสร็จก็จ่ายค่าคนครั้งเดียว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการขายและหาลูกค้าแล้ว ยิ่งได้คนซื้อเยอะก็ยิ่งกำไร (นึกถึงโมเดลของ Microsoft เอาไว้นะ แบบนั้นเลย) การที่ไปตั้งดีลเลอร์หลายๆที่ก็จะเป็นตัวทวีคูณยอดขายได้เลย(ถ้าขายออกนะ) คือต้นทุนเท่าเดิมแต่ยอดขายจะกระโดดแบบไม่ต้องพยายามอะไรมากนักดังนั้นความหวังของการเติบโตจึงขึ้นอยู่กับ dealer ต่างประเทศ กับ อรรถประโยชน์ของ software แล้วล่ะว่าจะได้ใจ(ว่าที่)ลูกค้าแค่ไหน
ข้อดีของ software บริหารโรงแรมก็คือสามารถขายได้ทั่วโลกไง อีกอย่าง เมืองไทยเราก็เก่งทางด้านนี้ เพราะเป็นเมืองท่างเทียวที่รับรู้สารพัดปัญหาและโอกาส
ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น ก็โตขึ้นระดับ 30% ทุกปี
คุณสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ยังบอกอีกว่า อยากให้หุ้นตัวนี้เป็น Growth stock และโตได้อย่างเรื่อยๆเป็นขั้นตอน (Organic growth) แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทที่จะไปร่วมในอนาคตด้วย
ท่าน CEO ออกรายการ "เจาะธุรกิจโรงแรมด้วยซอฟแวร์ล้ำประสิทธิภาพ"
ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น จำนวนไม่เยอะ 135 ล้าน เจ้าของถือร่วมๆ 60% ดูดีเลย ราคา IPO 7.80 บาท
ความเห็นของโบรคเกอร์ มีกิมเอ็งเจ้าเดียวที่ออกเอกสาร
ล่าสุดมี
ข่าวลง Efinancethai พอจะมีเนื้อข่าวที่เป็นประโยชน์ดังนี้
นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COMAN เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" คาดปีนี้สรุปดีลซื้อกิจการได้ 1 แห่ง ดันรายได้โตมากกว่า 20%
ขณะที่ตั้งเป้าภายใน 3 ปี (62) จะมีดีล M&A 3-4 ดีล ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว และซอฟต์แวร์ เพื่อให้บริษัทมีบริการที่ครบวงจร เช่น ซอฟต์แวร์การจองตั๋วเครื่องบิน จองร้านอาหาร จองสปา จองสนามกอล์ฟ ฯลฯ ซึ่งบริษัทตั้งงบไว้มูลค่า 184-190 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 70% ของเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอ
สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ พบว่าส่วนใหญ่มองแนวโน้ม COMAN เป็นบวก โดยเฉพาะในระยะ 3 ปีข้างหน้า แต่ดูเหมือนว่าหุ้นบนกระดาน จะพุ่งขึ้นเกินกว่าราคาเหมาะสมที่บล.ทรีนิตี้ ซึ่งเป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์ได้ให้ไว้
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า COMAN ประกอบธุรกิจพัฒนาเพื่อจำหน่ายและให้บริการติดตั้งโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ รวมถึงการให้บริการบำรุงรักษาระบบให้กับผู้ประกอบการ
โดยมีกลุ่มผู้ใช้โปรแกรมกว่า 650 โรงแรม และ 42 กลุ่มเครือโรงแรม เช่น กลุ่ม CENTARA IMPERIAL และ EASTIN เป็นต้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในบริษัทย่อย MSL ซึ่งผู้เชียวชาญเทคโนโลยีการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data Analytics ประเมินกำไรสุทธิในปี 2559 - 2561 อยู่ที่ 38 ล้านบาท 57 ล้านบาท และ 77 ล้านบาท ตามลำดับ และคิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 40 ร้อยละ 51 และ ร้อยละ 34 ตามลำดับ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2560 ที่ 10.75 บาท อิง P/E ที่ 25 เท่า
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุ COMAN เป็นหนึ่งในบริษัทด้าน Thai FinTech ที่น่าจับตามากในระยะ 3 ปีข้างหน้านี้ จากการอยู่ในอุตสหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นเสาหลักของประเทศ และการปักหลักดูแลระบบหลังบ้านให้โรงแรมกว่า 1 แสนห้องได้แล้ว ทำให้โอกาสต่อยอดในระยะยาวมีค่อนข้างมาก โดยการ IPO ล่าสุด เป็นบันไดสำคัญของแผนการพัฒนา Platform เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในประเทศแบบครบวงจร ซึ่งจะสร้างความแตกต่างครั้งสำคัญให้บริษัทอีกด้วย เราแนะนำนักลงทุนให้เริ่มศึกษาติดตามพัฒนาการจากนี้ไป
COMAN ต้องนับว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี และแนวโน้มการเติบโตเกาะไปกับภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ราคาหุ้นในปัจจุบัน ที่เกินกว่าพื้นฐานปีนี้ ที่บล.ทรีนิตี้ ซึ่งเป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์ให้ไว้ที่ 10.75 บาทเท่านั้น อีกทั้งยอดดอย 14.40 บาทที่ทำไว้ในวันแรกของการเข้าซื้อขาย น่าจะยังคงหลอกหลอนนักลงทุนอยู่ไม่น้อย
ในส่วนของราคาอันเป็นความเห็นตลาด วันนี้ (5/1/2559) มีการเปิด gap ข้ามแนวต้านเดิมไปได้ ครึ่งวีนวอลุ่มสูง ก็มีแววน่าสนใจ ถ้าราคาไปต่อ
แต่กระนั้น, เมื่อดูภาพใหญ่แล้วก็ยัต้องเหนื่อยกับการผจญกับแรงขาย ที่ทำยอดสูงปรี๊ดที่ 14.40
ส่วนอนาคตจะเป็นเช่นไร ผมก็ทำนายไม่ได้ รอตลาดและผลประกอบการเป็นตัวเฉลยให้ดีกว่า ส่วนตัวเราก็พยายามตามกระแสนั้นไปถ้าคิดว่าดี