การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

Image
การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม แปลจาก https://x.com/NickSchmidt_/status/1870997680513544635?t=v5ED4IJCHVAJTwaAGY3IqQ&s=19 หลายคนเข้าใจผิดว่า การตั้ง Stop Loss เป็นเพียงการกำหนดเปอร์เซ็นต์ขาดทุนแบบสุ่มเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ความจริงแล้ว การตั้ง Stop Loss ที่ถูกต้องต้องมีเหตุผลที่สอดคล้องกับโครงสร้างและแผนการเทรดของคุณ eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340 สิ่งที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ Stop Loss 1. Stop Loss ควรมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เปอร์เซ็นต ตัวอย่าง: คุณอาจใช้กฎ 7% เป็นขีดจำกัดการขาดทุน แต่ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อหุ้นแล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 7% โดยไม่มีการพิจารณาโครงสร้างของหุ้น นั่นไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่ดี 2. Stop Loss ต้องเข้ากับลักษณะของการเทรด หุ้นที่ยังแข็งแรง: บางครั้งหุ้นอาจปรับฐาน 10% แต่ยังคงแนวโน้มที่แข็งแรงและโครงสร้างไม่เสียหาย ถ้า Stop Loss ของคุณตั้งไว้ต่ำเกินไป เช่น 7% โดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ...

วิธีการตีความข่าวหนังสือพิมพ์หุ้น

(แนะนำ)
ถ้าชอบบทความ อยากอ่านเพิ่ม
แนะนำเข้าไปดูหน้าสารบัญบล็อก zyo71
https://www.zyo71.com/p/blog-page.html
มีบทความให้อ่านร่วม ๆ 600 บทความครับ

นอกจากนี้ ผมยังทำคลิป ลงยูทูป
เกี่ยวกับจิตวิทยาการเทรด mindset อัพทุกวัน มีให้ชมทุกวัน
https://www.youtube.com/channel/UCTDoP5zRI4hRETT_2SSlPag

ทั้งหมด ฟรีครับ

(ขอแนะนำงานเขียนใหม่ล่าสุดครับ)

๑. เล่มนี้จะเปิดเผยอีกด้านของการเทรดแนวเทคนิคอล
จากมุมมองของนักเทรดประสบการณ์ 10-40 ปี
ว่าเขามองการวิเคราะห์ทางเทคนิคว่ายังไงบ้าง มีจุดแข็งอยู่ตรงไหน?
อะไรคือจุดอ่อนของเทคนิคอล แล้วจะใช้งานมันยังไงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด?
๒. ทำไมทั้งที่ใช้อินดิเคเตอร์ตัวเดียวกัน หรือใช้ Price Pattern ก็ตัวเดียวกัน
...แต่ทำไมนักเทรดมือโปรได้กำไรสม่ำเสมอ?
...ทว่ามือใหม่กลับเอาตัวไม่รอด...ขาดทุนซ้ำซาก?
ปัญหามาจากเทคนิคอล? หรือมาจากส่วนอื่นกันแน่?
๓. นำเสนออีกมุมของเทคนิคอล ที่ไม่มีใครบอกคุณตรง ๆ ว่าแท้จริงแล้วเทคนิคอล
...เทคนิคอลไม่ได้สวยหรู ไม่ได้มหัศจรรย์หรือเป็นสูตรวิเศษอะไรเลย?!
... มือโปรไม่ได้มองแบบที่มือสมัครเล่นมองเลยแม้แต่น้อย!!
๔. ไม่เหมาะสำหรับคนที่บูชาเทคนิคอลแบบงมงาย
...ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรวยเร็ว ๆ จากการเทรด
... แต่เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เทคนิคอลให้ถูกต้องแบบที่มือโปรเขาใช้กันเป็นบรรทัดฐานครับ
eBook :  การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักเทคนิคอลมือโปร ประสบการณ์ 10 ปี++ อยากบอกมือใหม่ รู้ก่อน...รอดก่อน มีขายที่ mebmarket นะครับ  ตามลิงค์นี้นะ http://bit.ly/436mRyO
- - - - -
- - -


บทความนี้ ผมอยากจะแชร์ วิธีการตีความข่าวหนังสือพิมพ์หุ้นว่าเราควรแกะและอ่านความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้นยังไง และแหล่งหาข้อมูลมายืนยันกับเนื้อข่าวนั้น เพื่อหาข้อสรุปว่าน่าเชื่อหรือไม่
โดยทั้งหมดนี้เป็นการยกตัวอย่างเพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาว่าร้ายใคร หรือเชียร์หุ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ที่มาก็คือ....บังเอิญผมได้อ่านหน้าปกหนังสือพิมพ์ทันหุ้นฉบับวันที่ 23-25 ธันวาคม 2559 เกี่ยวกับหุ้น NYT แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ น่ายกมาเป็นกรณีศึกษา
เพราะผมมองว่ามันเป็นวิธีการเขียนข่าวที่ "โปร" มากๆ ทั้งการให้ความหวัง ขายฝัน ให้ความมั่นใจ และขยี้ข่าว
ซึ่งเนื้อข่าวเขาโปรยไว้อย่างนี้

NYT เล็งสยายปีกต่างแดน งบนิวไฮ 4 ปีซ้อน - ยิลด์สูง 6%
วงการชี้ NYT ซุ่มเจรจาพันธมิตรฝรั่ง ผุดท่าเรืออินโดนีเซีย หวังรองรับค่ายรถยนต์ตั้งฐานการผลิตเพื่อส่งออกลุยขยายคลังสินค้า 80 ไร่ หวังสร้างรายได้ประจำลดความผันผวนทางธุรกิจ จ่อลงทุนท่าเรือ C0 เพิ่มเป็น 29% จาก 20% หนุนฐานรายได้แกร่ง มั่นใจปี 59 กำไรทุบสถิติใหม่ขานรับผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตเพื่อส่งออกแทนผลิตเพื่อขายในประเทศ เป้า 20.70 บาท

ขอท้าวความบอกกันไว้ก่อนว่า ผมไม่เคยให้ราคากับหัวข่าวที่หนังสือพิมพ์หุ้นพยายามสื่อทุกวันสักเท่าไหร่นัก เพราะมองว่ามันออกไปในทาง "เกมส์" ซะมากกว่า และเหมารวมไปว่าคนอ่านส่วนใหญ่น่าจะเป็นรายย่อยที่คอยหาหุ้นเล่นรายวันเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อข่าวออกก็มักจะเป็นเวลาปล่อยของจากมือรายใหญ่ทุกทีสิน่า

ดังนั้น, บทความนี้ เลยอยากจะย้อนรอย ตีความเนื้อหาที่หนังสือพิมพ์เขาตั้งใจจะสื่อว่ามันมีความสมจริง น่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน โดยเริ่มจากข่าว NYT ตัวนี้เลย
เริ่มที่การตีความความหมายที่ซ่อนอยู่ใต้บรรทัดพาดหัวเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ก่อนเลย

NYT เล็งสยายปีกต่างแดน งบนิวไฮ 4 ปีซ้อน - ยิลด์สูง 6% เขาต้องการจะบอกอะไรบ้างครับ?
แบ่งทีละส่วนเลยนะ เริ่มที่พาดหัวไม้ NYT เล็งสยายปีกต่างแดน
NYT คือ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) และสินค้าทั่วไป โดยมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการตั้งอยู่ในบริเวณท่าเทียบเรือ A5 ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือที่มีปริมาณการส่งออกรถยนต์มากที่สุดในประเทศไทย โดยในปี 2554 ถึงปี 2556 มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณร้อยละ 80 ของจำนวนรถยนต์ที่ส่งออกทั้งหมดของประเทศไทย ลักษณะการให้บริการแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1) การให้บริการท่าเทียบเรือ
2) การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้าและเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก
และ 3) การให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก

ต่อมาก็เป็นประโยค เล็งสยายปีกต่างแดน
เล็ง คือ ตั้งใจ ยังไม่ได้ลงมือกระทำ
สยายปีกต่างแดน ขยายธุรกิจหรือสาขาไปยังต่างประเทศ
พอจะตีความหมายจากประโยคนี้ได้ว่า บริษัทนามยง อันทำธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ มีความตั้งใจที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
นี่คือสาส์นที่หนังสือพิมพ์เขาต้องการบอกเราผ่านตัวหนังสือ
แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอกนะ อย่าลืมว่ามนุษย์เราน่ะ มี "จินตนาการ" ที่กว้างไกลมากเกินที่ใครจะหยั่งรู้ โดยเฉพาะ "นักลงทุนรายย่อย"
พวกเขาเหล่านั้นจะรับรู้ทันทีว่า หุ้น NYT (ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่ามันทำธุรกิจอะไร) น่าสนใล่ะ จำชื่อหุ้นได้แล้ว
ต่อมาเขาจะตีความไปอีกว่า "สยายปีกต่างแดน" ตั้งใจจะขยายกิจการไปต่างประเทศ แบบนี้ในอนาคตกำไรจะต้องโตแน่นอน ถ้ากำไรโตได้อีก ราคานี้ก็ต้องถูกสิ ซื้อเลยไม่ต้องคิดมาก

งบนิวไฮ 4 ปีซ้อน - ยิลด์สูง 6%
งบนิวไฮ 4 ปีซ้อน หมายความว่าอะไร คำว่า "งบ" รายย่อยจะตีความทันทีว่า "กำไร" ทำสูงสุด 4 ปีซ้อน นี่มันหุ้นโคตรดีเลยนี่หว่า กำไรเพิ่มขึ้นทุกปีต่อเนื่อง"
ยิลด์สูง 6% ปันผล 6% โหสุดยอด ซื้อไปเถอะ ติดดอยก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็มีปันผลให้ตั้ง 6% แน่ะ สูงกว่าฝากธนาคารหลายเท่าตัว แบบนี้เสี่ยงน้อยมากๆ
สรุปคือ แค่ประโยคไม่กี่พยางค์นี้มันกระตุ้นให้รายย่อยพุ่งกระโจนเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้อย่างเต็มอกเต็มใจ เพราะเขารู้แล้วว่าหุ้น NYT เป็นหุ้นเติบโต ปันผลสูง ซื้อตอนนี้เสี่ยงน้อยมาก

ถ้าอ่านเพิ่ม ก็จะรู้รายละเอียดที่ขยายความที่ว่า "วงการชี้ NYT ซุ่มเจรจาพันธมิตรฝรั่ง ผุดท่าเรืออินโดนีเซีย หวังรองรับค่ายรถยนต์ตั้งฐานการผลิตเพื่อส่งออกลุยขยายคลังสินค้า 80 ไร่ หวังสร้างรายได้ประจำลดความผันผวนทางธุรกิจ จ่อลงทุนท่าเรือ C0 เพิ่มเป็น 29% จาก 20% หนุนฐานรายได้แกร่ง มั่นใจปี 59 กำไรทุบสถิติใหม่ขานรับผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตเพื่อส่งออกแทนผลิตเพื่อขายในประเทศ เป้า 20.70 บาท"

เราจะจับสังเกตุได้อีกกับคำว่า "วงการชี้ NYT ซุ่มเจรจาพันธมิตรฝรั่ง" คำว่า "วงการ" แสดงว่าไม่ใช่บริษัท แต่เป็นคนในอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ พนักงานทำความสะอาดในท่าเทียบเรือจะถือว่าเป็นคนในวงการมั้ย แต่เชื่อเถอะรายย่อยที่เชื่อในพาดหัวข่าวแล้วจะตีความไปทันทีว่าเป็น "กูรู" ที่รู้เรื่องของบริษัทนี้ดี เผลอๆก็เชื่อไปว่าเป็นคนในบริษนั้นแหละที่ชี้เบาะแส
ต่อมาก็คือ "ซุ่มเจรจาพันธมิตรฝรั่ง ผุดท่าเรืออินโดนีเซีย"
ซุ่มเจรจา - นี่มัน "ข่าววงใน" ชัดๆ พันธมิตรฝรั่ง - ฝรั่งมันต้องเงินเยอะแน่ๆ
อะไรที่เป็น ข่าววงใน มันช่างโดนใจรายย่อยนัก เจอที่ไหนกระโจนเข้าที่นั่น

อีกท่อนคือ "หวังรองรับค่ายรถยนต์ตั้งฐานการผลิตเพื่อส่งออกลุยขยายคลังสินค้า 80 ไร่ หวังสร้างรายได้ประจำลดความผันผวนทางธุรกิจ"
สังเกตุตัวหนานะครับ คือเริ่มต้นที่คำว่า "หวัง" ซึ่งมันหมายความว่าเป็นเรื่องของอนาคตทั้งนั้น จะสำเร็จได้จริงหรือเปล่า ก็ไม่มีใครทราบได้เลย

อีกคำที่อยากให้สังเกตุคือ หวังสร้างรายได้ประจำลดความผันผวนทางธุรกิจ ก็หมายความว่า ธุรกิจนี้มีรายได้ที่ผันผวนตามอะไรสักอย่าง รายรับ/กำไรไม่แน่นอน เศรษฐกิจดีการส่งออกดีก็กำไร เศรษฐกิจฟุบส่งออกไม่โตก็ง่อย ดังนั้นถ้าใครก็ตามอ่านแล้วคิดและจำได้แม่นก็จะต้องตั้งคำถามแล้วว่า "งบนิวไฮ 4 ปีซ้อนนี่มันชักจะแหม่งๆ มีอะไรตุๆ ไม่น่าเชื่อถือแล้ว

ประโยคต่อไปคือ จ่อลงทุนท่าเรือ C0 เพิ่มเป็น 29% จาก 20% หนุนฐานรายได้แกร่ง มั่นใจปี 59 กำไรทุบสถิติใหม่ขานรับผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตเพื่อส่งออกแทนผลิตเพื่อขายในประเทศ เป้า 20.70 บาท
เห็นอีกพยางค์นะ "จ่อ" คือยังไม่ได้ทำ
มั่นใจปี 59 กำไรทุบสถิติใหม่ นี่ก็เป็นการคาดเดา แต่เม่าก็เชื่อและมั่นใจว่างบดีแน่นอน
และที่เป็นไฮไลท์ คือ เป้า 20.70 บาท กลับไปดูราคาปิดเมื่อวาน 14.4 บาท โห...กำไร 5 บาทเลยทีเดียว (รายย่อยทุกคนเชื่อสนิทใจทันทีว่าราคาต้องไปถึงราคาเป้าหมายล้านเปอร์เซ็นต์)


Fact หาความจริง

โอเค... จบการตีความใต้บรรทัดจากพาดหัวข่าวไปแล้ว ก็พอสรุปได้ว่าเป็นข่าวที่ "ขายฝัน" 100% เป็นเรื่องอนาคตที่ไม่มีใครรู้ได้เลยนอกจากคนทำธุรกิจเอง (ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกเรา)
คราวนี้มาดูกันที่ ความจริงกันบ้าง โดยผมจะเอาข้อมูลจากเว็บ http://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=nyt&ssoPageId=3&language=th&country=TH
เริ่มต้นที่ งบนิวไฮ 4 ปีซ้อน ว่าจริงมั้ย

จากตารางข้างบนพบว่า "ยอดขาย" กับ "รายได้" เพิ่มสูงขึ้นทุกปี
แต่ "กำไร" ผันผวน แถม 9 เดือนนี้ยังน้อยกว่าปีที่แล้วอีก โดยรวมไม่ได้โตทุกปี มีสลับขึ้นลง
จึงพอตีความได้ว่า "งบ" ที่หนังสือพิมพ์อ้างนั้น เป็น "รายได้" มิใช่ กำไร"

ส่วนเรื่องของปันผล หรือ ยิลด์ นั้น ก็มีปันผลทุกปี แต่ผมไม่รู้ว่าเขาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไง กระนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่มีมูลของความจริงอยู่


ย้อนกลับไปที่ "สยายปีกต่างแดน" ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องมีรายงานให้ตลาดรับรู้
ดังนั้นต้องเช็คข่าวที่แจ้งตลาด

อ่านเจอมั้ยครับ ข่าวแจ้งประเภทที่ว่านั้น ...ไม่มีเลย!!! จึงไม่แปลก เนื้อหาของข่าจึงอ้างคำว่า "วงการ" เพราะมันไม่มี fact เลยไง ต้องใช้การระบุบุคคลที่ 3 เพื่อให้น่าเชื่อถือก็ใช้คำนี้เพราะจะสื่อว่าเป็นคนที่รู้จริง ของแท้ที่อยู่ในวงการนั้นให้ข่าวเอง (ซึ่งอาจจะจริงก็ได้ แต่ตอนนี้เราไม่รู้ไง ซึ่งเมื่อไม่รู้ก็ต้องคิดในแง่ลบไว้ก่อนว่า "หลอก")
ดังนั้นเราก็พอจะสรุปว่าเนื้อหาที่เขาเสนอขยายความหัวข่าวต่อมานั้นเป็นการ "มโน" ให้อ่านเท่านั้นเอง เพราะมีพยางค์ทั้ง "ซุ่ม", "หวัง", "มั่นใจ", "จ่อ"

เมื่อใจความโดยรวมเป็นการ "มโน" (จริงๆอยากใช้คำอื่นนะ แต่จะแรงไป) การให้เป้า 20.70 บาท ก็ไม่น่าจะตีความเป็นอย่างอื่นไปได้


Market ความเห็นของตลาด

มาดูภาคของกราฟกันบ้างนะ
ส่วนนี้น่ะ มันเป็นสิ่งที่ตลาดตอบสนองต่อข่าว ซึ่งน่าสนใจ ไม่ควรมองข้ามอย่างที่สุด
วิธีการดูปฏิกริยาของตลาดต่อข่าว (ที่เอาไอเดียจากพี่ Mark Minervini) ดังนี้
1. แรงตอบรับช่วงแรก หุ้นวิ่งหรือโดนทิ้ง ถ้าโดนทิ้ง หุ้นเริ่มลงหลังเด้งหรือไม่ หรือราคาหุ้นวิ่งขึ้นคึกคัก
2. แรงต้านต่อเนื่อง หุ้นยังรัษาระดับราคาไว้ได้และทนต่อแรงขายทำกำไรได้ดีแค่ไหน
3. แรงยืดหยุ่น หุ้นฟื้นตัวได้เร็วและแรงมากไหม หรือหุ้นหยุดวิ่งหลังปรับลง หรือแย่กว่านั้นคือโดนทิ้ง
ถ้ามันจะไปจริงๆ ก็ไม่ควรโดนขายหนักจนทะลุผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นทั้งหมด

ดูที่ภาพใหญ่ในรอบ 5 ปีก่อนนะ ก็เป็นหุ้นขาลง ที่ยังนอนก้นอยู่



ภาพในกรอบ 1 ปีล่ะ จะสังเกตุได้เลยว่าตั้งแต่ เดือนกันยายน Sep 19 เป็นต้นมา มีวอลุ่มการซื้อขายที่หนาแน่นและสูงกว่าเดือนก่อนหน้านั้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลย คือก่อนหน้านั้นน่ะ แทบไม่มีการซื้อขายกันเลย

จะว่ามีการแตกพาร์ก็ไม่มีข่าวแจ้ง จำนวนหุ้นก็เท่าเดิมคือ 620 ล้าน



ปฏิบัติการ ลับ ลวง พราง

จึงเอะใจลองค้นข่าวย้อนกลับ ก็พบว่า หนังสือพิมพ์สำนักนี้ออกข่าวเกี่ยวกับ NYT เยอะมาก แถมต่อเนื่องอีกต่างหาก
เริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน วันที่วอลุ่มแท่งยาวในกราฟ 1 ปี ข้างบนนั่นแหละครับ

อ่านดูเนื้อข่าวสิครับ มันเหมือนกันมั้ย โอโห....นี่มันงานมิเรอร์ชัดๆ คือข่าวที่ออกวันนี้น่ะ มันถูกปล่อยตั้งแต่ 16 กันยายน ไปรอบแรกแล้ว

ต่อมา 7 ตุลาคม, 2016


10 ตุลาคม 2559 เด็กแนวก็มา

แต่ราคาก็ไม่ไปไหนไกล เขาก็ไม่ย่อท้อ 28 ตุลาคม โยกไปลงในคอลัมน์ใหม่ Fast Trade by AppleWealth

สังเกตุตารางที่เขายกขึ้นมาให้ดูสิครับ คัดเอาเฉพาะส่วนที่ดูดีทั้งนั้น ซึ่งมันไม่รอบด้านไง มันไม่มีนัยยะอะไรเลย
นี่คือตารางที่เราหาได้จากเว็บ SET


2 พฤศจิกายน เอาอีก คราวนี้คาดผลประกอบการว่าดีขึ้น เป้า 19 บาท

ดูกราฟสิครับ ตลาดไม่ตอบสนองเลย วอลุ่มเหือดมาก

10 พฤศจิกายน พอ งบออก ก็มีรายงานข่าวว่า กำไรลด ที่เก็งไว้ก็ผิดสิ แต่ก็ไว้ลาย ให้ความหวังว่าไตรมาส 4 ดีขึ้นแน่ๆ


21 พฤศจิกายน, 2016 - 15:11 หลังจากซาๆ ก็เอาอีก อ้างยอดส่งออกรถยนต์เพิ่ม ให้รีบสะสมก่อนตกขบวน


30 พฤศจิกายน, 2016 - 15:38 ย้ำเรื่องเดิมอีก เดี๋ยวลืม


19 ธันวาคม, 2016 - 12:49 เล่นข่าววงใน ให้เบาะแสว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ที่สูงกว่าปกติ ขยายพื้นที่ทำกิน



มาดูกราฟกัน โดยผมจะชี้แท่งเทียนในวันที่ข่าวออก

นี่ยกมาแค่บางส่วนนะ ผมเช็คแล้ว ข่าวออกมาทุกอาทิตย์เลยล่ะ อ่านทั้งหมดได้ที่นี่


สรุป อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ


นิทานเรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า การที่มีวอลุ่มเข้ามาสะสมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอย่างมากก็ไม่อาจจะการันตีว่ามันจะวิ่งขึ้นเสมอไปหรอกนะ สิ่งที่เราควรให้ความใส่ใจ/สำคัญต่อไปคือการเปลี่ยนพฤติกรรมของมัน ซึ่งมี 2 แบบคือ สะสมเพื่อไล่ราคาขึ้น หรือไม่ก็สะสมเพื่อทุบลง ซึ่งอนาคตเท่านั้นที่จะบอกเราได้
หน้าที่ของนักเก็งกำไรคือรอให้ตลาดเฉลยก่อนค่อยเข้าร่วม เพื่อให้ได้เปรียบที่สุด

นักเก็งกำไร ควรทำตัวเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย
ที่ นั่งบนภู ดูเกมส์การต่อสู้ โดยไม่ลงไปร่วมรบ
ฝั่งไหนชนะ ก็เข้าร่วมฝั่งนั้น
รอให้เกิดความชัดเจนเสียก่อนว่ามีฝั่งชนะอย่างเด็ดขาด ค่อยเข้าไปร่วมวงฝั่งที่ได้ชัย
อย่าเข้าไปร่วมตะลุมบอนในสงครามที่ยังไม่รู้ผลโดยเด็ดขาด เพราะเราจะบาดเจ็บโดยใช่เหตุ สูญเสียอย่างไม่จำเป็น

โดยสรุปนะ สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ อย่าเพิ่งเชื่อใครอย่างง่ายๆ พยายามหาข้อมูลที่เป็นความจริงมาแย้งให้มากที่สุด ดูเว็บ set.or.th อันเป็น fact และอย่าละเลยกราฟเพราะมันเป็นความเห็นของตลาดว่ามีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน หากข่าวดีแต่กราฟไม่กระดิกก็ตีความไว้ก่อนว่ามันหลอก

อย่าคิดว่าการหาข้อมูลจากหลายๆแหล่งมันเป็นการเสียเวลา เพราะยิ่งคุณค้นคว้าคุณก็จะได้ทักษะที่เพิ่มพูนต่ออาชีพคุณมากขึ้นเท่านั้น โลกของการลงทุนหุ้นน่ะ มันเป็นเกมส์กินตังค์กันและกัน โดยประสบการณ์ในเรื่องของการสอบทานหลายมุมแบบนี้แหละที่จะทำให้คุณสามารถเอาไว้ใช้เพื่อความอยู่รอดในตลาดระยะยาวได้
เรามาพยายามด้วยกันนะ(ที่ผมทำแบบนี้ก็ไม่ได้อวดว่าเก่งอะไรนะ ก็พยายามสร้างนิสัยที่ถูกต้องเอาไว้)
คนไหนทำคนนั้นได้ครับ

-------------------------------------------
----------------------
----------------------
สนับสนุนโดยหนังสือผมเองครับ

www.facebook.com/zyobooks

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ