Posts

วิธีเทรดที่ Deepak Uppal สามารถทำกำไรระดับ 100%++ ได้

Image
วิธีเทรดที่ Deepak Uppal สามารถทำกำไรระดับ 100%++ ได้ ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จคือ: 1) มีกรอบความคิดผู้ชนะและเป็นบวก (Positive Mindset) – นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุด ถ้าคุณไม่มีสิ่งนี้ มันจะยากมากที่จะบรรลุเป้าหมายการเทรดของคุณ . 2) สร้างกฎสำหรับตัวเอง (Create Rules) – แต่ต้องเป็นกฎที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย และสามารถจดจำได้โดยไม่ต้องคิดเยอะ . 3) ระบุธีมของตลาดและผู้นำตลาด (Market Themes & Leaders) – เริ่มต้นปีโดยหาธีมที่แข็งแกร่งและหุ้นที่เป็นผู้นำ แล้วให้ความสนใจกับหุ้นเหล่านั้น . 4) โฟกัสพอร์ตของคุณไปที่หุ้นที่มีแนวโน้มดี (Concentrate Your Portfolio) – อย่ากระจายการลงทุนมากเกินไป ให้เลือกหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง . 5) หาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม (Identify Good Setups & Entries) – ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าและออกจากตลาด . 6) ทำซ้ำกระบวนการนี้ (Rinse & Repeat) – เทรดตามกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานได้ดี eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&da...

"คิดเสมอว่าการเทรดครั้งต่อไปจะขาดทุน" – คำแนะนำจากปู่ Peter L. Brandt สำหรับนักเทรดมือใหม่

Image
 "คิดเสมอว่าการเทรดครั้งต่อไปจะขาดทุน" – คำแนะนำจากปู่ Peter L. Brandt สำหรับนักเทรดมือใหม่ จาก https://x.com/PeterLBrandt/status/1898057572235809261 Peter L. Brandt เป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์กว่า 50 ปี และเขาผ่านช่วงเวลาทั้งดีและร้ายในการเทรด แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเรียนรู้คือ “การคิดเสมอว่าการเทรดครั้งต่อไปอาจจะขาดทุน” นี่อาจฟังดูเป็นแนวคิดที่แปลก เพราะโดยทั่วไป นักเทรดมักมองว่าตัวเองต้องชนะหรืออยากได้กำไรจากทุกการเทรด eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 . "คิดเสมอว่าการเทรดครั้งต่อไปจะขาดทุน" ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้? เพราะเมื่อเราคาดหวังว่าการเทรดครั้งต่อไปอาจเป็นการขาดทุน มันจะช่วยให้เราปกป้องเงินทุนของเราได้ดีขึ้น เราจะมีวินัยในการตัดขาดทุนเร็วขึ้น (cut loss) และไม่หลงไปกับอารมณ์ของตัวเอง เมื่อรู้ว่าการเทรดมีโอกาสขาดทุน เราจะใส่ใจเรื่อง “การบริหารความเสี่ยง” มากขึ้น . แน่นอนว่าจริงๆ แล้...

Relative Volume (RVOL) คืออะไร?

Image
Relative Volume (RVOL) คืออะไร? Relative Volume (RVOL) คือ การเปรียบเทียบปริมาณการซื้อขายของหุ้นในปัจจุบันกับค่าเฉลี่ยของปริมาณการซื้อขายในอดีต วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถประเมินระดับกิจกรรมของตลาดได้ว่าในช่วงเวลานั้นมีการซื้อขายมากหรือน้อยกว่าปกติ RVOL เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยืนยันแนวโน้มหรือการเกิดสัญญาณ Breakout (การทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ) ซึ่งสามารถบอกถึงความแข็งแกร่งของทิศทางราคา และช่วยให้นักเทรดเข้าใจจิตวิทยาของตลาดได้ดีขึ้น eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ทำไมนักเทรดต้องให้ความสำคัญกับ RVOL? RVOL มีบทบาทสำคัญในหลายด้าน เช่น ✅ ยืนยันแนวโน้ม (Trend Confirmation) หากราคาหุ้นกำลังขึ้นและมี RVOL สูงกว่าค่าเฉลี่ย หมายความว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยยืนยันแนวโน้มขาขึ้น หากราคาหุ้นกำลังลงและมี RVOL สูงกว่าค่าเฉลี่ย หมายความว่ามีแรงขายเข้ามามาก ซึ่งช่วยยืนยันแนวโน้มขาลง ✅ ช่วยบอกสัญ...

จงคบหากับผู้คนที่สามารถ พัฒนาคุณให้ดีขึ้น และเปิดรับผู้ที่คุณสามารถ ช่วยให้พัฒนาขึ้นได้

Image
คำพูดของเซเนกา (Seneca):  "คบหากับผู้คนที่สามารถพัฒนาคุณให้ดีขึ้น และเปิดรับผู้ที่คุณสามารถช่วยให้พัฒนาขึ้นได้ เพราะกระบวนการนี้เป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน มนุษย์เรียนรู้ในขณะที่สอนผู้อื่น" 1. เลือกสังคมที่ช่วยให้คุณเติบโต      - คนที่เราอยู่ด้วยมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมและแนวคิดของเรา หากเราอยู่ท่ามกลางคนที่มุ่งมั่น พัฒนาตนเอง และมีคุณธรรม เราก็จะได้รับแรงบันดาลใจและถูกผลักดันให้พัฒนาตัวเองเช่นกัน      - การคบหากับคนที่ดีกว่าเรา ไม่ใช่เพื่อเปรียบเทียบตัวเองจนหมดกำลังใจ แต่เพื่อใช้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาตัวเอง   2. ช่วยเหลือและยกระดับผู้อื่น      - ความสัมพันธ์ที่แท้จริงไม่ได้มีแค่การรับมาอย่างเดียว แต่ควรมีการแบ่งปันความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ให้กับผู้อื่นด้วย      - การช่วยเหลือและแนะนำผู้อื่นทำให้เราเข้าใจเรื่องนั้นลึกซึ้งขึ้น เพราะการสอนคือกระบวนการเรียนรู้อีกแบบหนึ่ง   3. การเรียนรู้เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยน      - ไม่มีใครที่รู้ทุกอย่าง และไม่มีใครที่ไม่ม...

เขาเทรดผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาเพราะ เปลี่ยนจาก “โฟกัสตลาด” เป็น "โฟกัส คณิตศาสตร์ และสถิติของการเทรด"

Image
Peter Brandt เป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมาก และในปี 2014 เขาเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเทรดไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เน้นไปที่ "ตลาด" (Market) เป็นหลัก เขาหันมาโฟกัสที่ "คณิตศาสตร์และสถิติของการเทรด" (Math/Stats of Trading) ซึ่งเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ที่แท้จริง 1. เปลี่ยนโฟกัสจาก "ตลาด" ไปสู่ "สถิติ" ของการเทรด เทรดเดอร์มือใหม่มักจะพยายามทำนายตลาดว่ามันจะขึ้นหรือลง แต่ Peter Brandt บอกว่า  จริง ๆ แล้วการพยายามทำนายตลาดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่เราควบคุมได้คือ "ตัวเลขและสถิติ" ที่อยู่เบื้องหลังระบบเทรดของเรา 2. กฎของ Peter Brandt สำหรับการบริหารความเสี่ยง Brandt ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ซับซ้อน แต่เขาให้ความสำคัญกับ "การควบคุมตัวเลขทางสถิติของการเทรด" โดยเขามีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้: ✅ (1) หลีกเลี่ยงช่วงที่มีอัตราชนะมากเกินไป (>50%) - ฟังดูขัดแย้ง แต่ Brandt หมายถึงว่าถ้าเราเข้าใจสถิติของระบบการเทรดของตัวเองดีพอ จะรู้ว่าช่วงที่เราชนะติดกันมากเกินไปอาจทำให้เราประมาท และเพิ่มขนาดการเทรดมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนหนักในภายหลัง ✅ (...

10 ปี SET กลับมาอยู่ที่เดิม (แล้ว)คุณ “เติบโต” หรือไม่? นี่คือความรู้ที่คุณควรได้

Image
  พัฒนาการและการเติบโตที่ควรมีหลังเทรดหุ้นมา 10 ปี   หากคุณเทรดหุ้นมานานถึง 10 ปี สิ่งที่คุณควรพัฒนาและเติบโตในฐานะนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ควรครอบคลุมทั้ง ด้านจิตวิทยา กลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้คุณอยู่รอดและประสบความสำเร็จในตลาดระยะยาว   Trader’s Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง? มีจำหน่ายเป็นอีบุ๊กที่  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=270047 1. ความเข้าใจตลาดแบบองค์รวม    ✅ คุณควรเข้าใจว่าตลาดหุ้นไม่ใช่แค่กราฟและตัวเลข แต่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง และพฤติกรรมมนุษย์   ✅ คุณจะเริ่มมองตลาดเป็น "วัฏจักร" มากกว่าการขึ้นลงรายวัน   ✅ คุณสามารถแยกแยะได้ว่าเมื่อใดควรลุย เมื่อใดควรถอย   พัฒนาการ:   - รู้จักวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น ช่วงขาขึ้น ขาลง ภาวะถดถอย และการฟื้นตัว   - เข้าใจปัจจัยมหภาค เช่น ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ค่าเงิน   - เริ่มเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ คริปโต   2. กลยุทธ์การเทรดที่แข็งแก...

อย่าพยายามค้นหา "กลยุทธ์ที่ไม่ขาดทุนเลย" แต่จงหาทางสร้างกลยุทธ์ ที่แม้ขาดทุนก็ยังได้กำไรงาม ด้วย 3 หลักการนี้

Image
จงหากลยุทธ์ที่ทำกำไรได้แม้มีการขาดทุน การหลีกเลี่ยงการขาดทุนเป็นไปไม่ได้ แต่การเพิ่มพูนเงินทุนให้เติบโตยังคงเป็นไปได้เสมอ   หลายคนพยายามค้นหา "กลยุทธ์ที่ไม่ขาดทุน" ซึ่งฟังดูสมเหตุสมผล แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่คำนึงถึงหลักความน่าจะเป็นเลย   เพราะตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและปัจจัยสุ่ม   - ไม่ว่าจุดเข้าเทรดจะดีแค่ไหน คุณก็ยังมีโอกาสขาดทุน   - ไม่ว่ากลยุทธ์จะสมบูรณ์แบบเพียงใด การแพ้ติดกันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้   - ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งแค่ไหน การขาดทุนต่อเนื่องก็ยังเกิดขึ้น   ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=334986 แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นหาวิธี "หลีกเลี่ยงการขาดทุน" หรือ "ชนะ 100%" จะเกิดอะไรขึ้น?   👉 คุณจะเลือกจังหวะเข้าเทรดมากเกินไป จนพลาดโอกาสที่ดี   👉 เมื่อแพ้แม้แต่ในการเลือกที่รอบคอบ จะทำให้สูญเสียความมั่นใจ   👉 เมื่อแพ้ติดกัน คุณจะเปลี่ยนกลยุทธ์บ่อยจนไม่...

Martin Luk เส้นทางการเทรด กลยุทธ์ และจุดเปลี่ยน ของนักเทรดวัย 22 ที่แข่ง USIC ปั้นพอร์ตโต 283%

Image
๑) Martin Luk เริ่มต้นด้วยเงินฟรี 10,000$HK เปิดพอร์ตเทรดหุ้น ปั้นพอร์ตโต 3 เท่า เพราะตลาดขาขึ้นสุดคึก ส่วนใหญ่ได้กำไรหุ้นเล็ก(หุ้นปั่น) ทั้ง ๆ ที่ เทรดแบบ FOMO, แก้แค้น , follow buy ที่ยอด เทรดสุ่ม และ ไม่ตัดขาดทุน(นี่คือกลยุทธ์ที่แย่) Trader’s Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง? มีจำหน่ายเป็นอีบุ๊กที่  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=270047 ๒) ตลาดไม่เล่นหุ้นเล็ก เงินย้ายไปหุ้นใหญ่  ปี 2022 ตลาดเป็นขาลงอีกต่างหาก เขายังเทรด เขาขาดทุนหนักเลย พอร์ตหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะยังคงเทรดด้วยแบบ(แย่)เดิมๆ  แค่ 2 เดือน การเทรดที่แย่ ๆ ก็คืนกำไรกลับไปหมด (ถือเป็นช่วง Boom and Bust) ๓) ไม่เลิก เปิดใจ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการ ดูยูทูป, ฟังพอใจคาสต์, ศึกษากราฟ, อ่านหนังสือ - ที่สำคัญคือ ได้ต้นแบบที่ดี คือ Quallamaggie ชอบสไตล์และแนวทางจึงเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการเทรดของตนเอง ๔) ปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2023 ผลการเทรดดีขึ้น ได้กำไร 80% จาก CVNA ทำให้พอร์ตเติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ นี่เป็น Aha moment เข้าใจแล้วว่าเกมนี้เล่นยังไง เข้าใจพลัง...

ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ตลอดเวลา คือคุณลักษณะของยอดนักเทรด

Image
Mark Minervini เป็นนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเน้นแนวทางการเทรดที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ตลอดเวลา คำพูดของเขาที่ว่า: "การเป็นนักเทรดหุ้น หมายถึงการเปลี่ยนความเห็น การตัดสินใจ และตำแหน่งการลงทุนของคุณได้อย่างอิสระ เมื่อเงื่อนไขของตลาดเปลี่ยนแปลงไป บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าการกลับกลอกและมองว่าเป็นความอ่อนแอ ขณะที่บางคนใช้มันสร้างกำไรหลักล้านและลดความเสี่ยงจากการเก็งกำไร การที่คุณไม่ใช้ข้อได้เปรียบของสภาพคล่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที นอกจากจะเป็นเรื่องที่โง่เขลาแล้ว ยังทำให้คุณกลายเป็นนักพนัน ไม่ใช่นักลงทุน" eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340 1. การเปลี่ยนแปลงความเห็นไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นกลยุทธ์ของผู้ชนะ หลายคนเชื่อว่าการยืนหยัดในมุมมองของตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ในตลาดหุ้น นั่นอาจเป็นหายนะได้ ถ้าคุณปักใจเชื่อว่า “หุ้นตัวนี้ต้องขึ้นแน่” แล้วตลาดกลับตัวลง คุณจะทำอย่างไร? ถ้าคุณไม่ยอมรับความจริงและยังคงถือหุ้นไว้โดยหวังว่ามันจ...

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้

"มีเพียงเกม (การเทรด) เท่านั้น ที่จะสอนให้คุณเข้าใจเกม (การเทรด) ได้"— Jesse Livermore ไม่มีหนังสือ บทความ หรือคำแนะนำใด ๆ ที่จะสอนคุณให้เป็นเทรดเดอร์ที่แท้จริงได้ นอกจากการลงสนามเทรดจริง คุณจะเรียนรู้ผ่าน ประสบการณ์ตรง ทั้งจาก ความสำเร็จและความผิดพลาด ๑) เรียนรู้จากตลาด – กราฟ ราคาวิ่ง แรงซื้อแรงขาย จะเป็นครูที่ดีที่สุด ๒) ทดสอบกลยุทธ์จริง – ทฤษฎีดีแค่ไหนก็ไร้ค่า ถ้าคุณไม่ลองใช้จริง ๓)ฝึกควบคุมอารมณ์ – เทรดจริงเท่านั้นที่จะสอนให้คุณรับมือกับความโลภและความกลัว สรุป: คุณต้องลงมือเทรดเอง ฝึกฝน ปรับปรุง และเรียนรู้จากทุกการซื้อขาย นั่นคือวิธีเดียวที่จะเข้าใจ "เกมการเทรด" อย่างแท้จริง

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)