การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

Image
การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม แปลจาก https://x.com/NickSchmidt_/status/1870997680513544635?t=v5ED4IJCHVAJTwaAGY3IqQ&s=19 หลายคนเข้าใจผิดว่า การตั้ง Stop Loss เป็นเพียงการกำหนดเปอร์เซ็นต์ขาดทุนแบบสุ่มเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ความจริงแล้ว การตั้ง Stop Loss ที่ถูกต้องต้องมีเหตุผลที่สอดคล้องกับโครงสร้างและแผนการเทรดของคุณ eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340 สิ่งที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ Stop Loss 1. Stop Loss ควรมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เปอร์เซ็นต ตัวอย่าง: คุณอาจใช้กฎ 7% เป็นขีดจำกัดการขาดทุน แต่ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อหุ้นแล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 7% โดยไม่มีการพิจารณาโครงสร้างของหุ้น นั่นไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่ดี 2. Stop Loss ต้องเข้ากับลักษณะของการเทรด หุ้นที่ยังแข็งแรง: บางครั้งหุ้นอาจปรับฐาน 10% แต่ยังคงแนวโน้มที่แข็งแรงและโครงสร้างไม่เสียหาย ถ้า Stop Loss ของคุณตั้งไว้ต่ำเกินไป เช่น 7% โดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ...

Sister Stock

โดย เซียว จับอิดนึ้ง facebook.com/zyoit

ขณะนั้น SET กำลัง "นิยม" หุ้นกลุ่มไหน เราก็ต้องจับตามองหุ้นกลุ่มนั้น 
เพราะการ "ฝืนกระแส" จะทำให้เรา "เสี่ยงสูง" ที่จะขาดทุน
- เสี่ยยักษ์

จากบทความแนวทางการเทรดของลิเวอร์มอร์ จะมีตอนหนึ่งที่เอ่ยถึง sister stock ซึ่งผมคิดว่าน่าสนใจเอามาแจงเป็นเคสและภาษาบ้านเรา ว่ามันใช้ได้จริงหรือไม่

ไอ้คำว่า sister นี่นะ ถ้าจะแปลตรงๆตัวก็คือน้องสาว แต่นัยยะของมันนี่ ผมก็ไม่ได้เก่งอังกฤษหรอกนะ  จึงขอมโนว่ามันคือการเกาะติดแจ เหมือนเรามีน้องสาวน่ะ มันจะคอยนัวเนียวิ่งตามเราอยู่นั่นแหละ ไปไหนมีเราก็ต้องมีมันติดเป็นเงาตามตัว พี่มีอะไรน้องต้องมีสิ่งนั้นด้วย จะทำอะไรก็ทำเหมือนๆกัน ดั่งร่างทรง (ดูรูปประกอบ)

ในทางหุ้นก็ไม่ต่างกัน การมี sister stock ก็คือ มีหุ้นอย่างน้อย 2 ตัววิ่งขึ้นไล่ๆกัน แบบเป็นเงาตามติด
แต่ในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องสอง มากกว่านั้นยิ่งดี เพราะยิ่งเยอะยิ่งยืนยันว่าความบันเทิงรอบใหญ่ได้อุบัติขึ้นแล้ว
เหตุผลที่ทวดลิเวอร์มอร์เค้าชอบ เพราะมันเป็นตัวช่วยยืนยัน หรือครอสเช็คไปในตัวว่า มันมีเงินเข้าจริง รวมถึงจบรอบจริงหรือเปล่า

ตัวอย่างที่เคยเกิดในอดีต ก็เช่น หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า, หุ้นต่ำบาท, หุ้นโรงพยาบาล, หุ้นเหล็ก อย่างที่บอกไว้ในหนังสือ ล่าสุดก็มีลิสซิ่งตัวเล็ก และ พลังงานตัวใหม่ๆ

ณ ปัจจุบันนี้ SET กำลังบวกอย่างร้อนแรง เพราะเงินฝรั่งเข้า
ซึ่งด้วยความที่ฝรั่งเงินเยอะมาก เขาก็จะเลือกเล่นหุ้นที่มี Market cap สูงๆ ประเภทหุ้นกลุ่ม A ตามสูตรพี่เปี๊ยก แมงเม่าสำราญ ใครไม่รู้จักก็ดูรูปข้างล่าง แต่บอกไว้ก่อนนะว่าไม่ได้วิ่งกันทุกตัว ในกลุ่มนั้นๆจะมีตัวนำและตัวทุบซ่อนอยู่ คุณต้องเลือกให้ถูกตัวด้วย
(ที่มา เฟสพี่มาร์อัครวัฒน์ facebook.com/Akarawat99) ถ้าไม่ชัด คลิกที่รูป มันจะแสดงขนาดจริงให้




จึงไม่แปลกที่มีคนบ่นว่า SET วิ่งแต่ทำไมหุ้นกรูนิ่งแถมดิ่งนรกอีกต่างหาก เพราะคนที่บ่นนั้น ถือแต่หุ้นตัวเล็กตัวน้อยอยู่เต็มพอร์ตไงครับ เมื่อเงินยังไม่เข้า เม่าเล่นกันเอง จิตเม่านั้นมีแต่การเปรียบเทียบเต็มหัว พอเห็นดัชนีเขียวบวกสิบจุด แต่หุ้นเรายังมุดอยู่ใต้ตมก็หมดใจขายหุ้นออก ผลก็คือหุ้นตัวเล็กๆส่วนใหญ่ไม่ไปไหน ยิ่งตัวที่เพิ่งฟื้นจากก้นด้วยแล้ว แนวต้านบานเบอะทั้งคนติดตอยและคนหมดใจ

ตลาดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้, เรารู้กันดี
ดังนั้น อย่าไปดื้อกับเขา วิธีการทำเงิน การพยายามตามกระแสเงินให้ชิดที่สุด คือสิ่งที่นักเก็งกำไรมืออาชีพเขารู้กัน อย่ารอให้เขามาหา แต่จงออกไปอยู่เป็นพวกเดียวกับเขาดีที่สุด

วิธีการสังเกตกระแสเงินที่ง่ายสุด ก็คือ หา sister stock นี่แหละ
หาหุ้นที่วิ่งเป็นกลุ่มให้เจอ แล้วเข้าไปตะลุมบอนแย่งเศษเหรียญกับเขา
แม้จะดูไร้ศักดิ์ศรีไปบ้าง แต่มันมีโอกาสได้เงินมากกว่านั่งรอเจ้ามืออยู่เฉยๆนะ

การซื้อหุ้นโดยไม่ดูกระแสเงินน่ะ ก็ไม่ต่างอะไรกับการหว่านแหในที่ไม่มีปลานั่นแหละ แม้ปากแหเราจะกว้างเพียงใด แต่เมื่อไม่มีปลาแล้ว เราก็เสียแรงเปล่า
ซึ่งเครื่องมือจับปลาของเม่าอย่างเงินน้อยเรา, ไม่น่าจะถึงขนาดแหได้หรอก เบ็ดไมไผ่ก็หรูแล้ว
คิดดู มีแค่เบ็ดกระจอก แต่เสือกอินดี้ ไม่พยายามไปตกในแหล่งที่มีปลาชุม
เพราะการไปในที่ที่มีกระแสเงินเข้า(อุปมาเหมือนปลาชุม) แม้ใช้แค่เบ็ดง่อยๆ ก็ยังมีโอกาสได้ปลา

ถ้าเงินเข้าหุ้นกลุ่ม A เราก็ต้องลองโหนกระแสไปด้วยอย่างน้อยสักคันก็ยังดี จะได้รู้ว่า อ๋อ...ตลาดมันมีแนวทางการเดินแบบนี้นี่เอง เงินฉลาดจะเข้าไปร่วมวงสร้างกำไรจากกระแสดอลล่าร์ก่อน พอได้กำไรจากฝรั่งและคนไทยด้วยกันจนอิ่มหนำแล้ว จึงเอาเศษเงิน(จากกำไร)เหลือๆนั้นมาโปรยใส่หุ้นตัวจ้อย เกรดรองๆ ต่อไป นี่คือเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมดัชนีวิ่งช่วงแรกๆนั้น หุ้นตัวเล็กตัวน้อยยังนิ่ง เพราะเขาต้องดันตัวใหญ่เพื่อยกระดับ SET ให้บวก เงินจึงต้องเทไปหากลุ่มนั้นไปก่อน

หรือนอกจากหุ้นกลุ่ม A แล้วก็ให้หาหุ้นที่มาเป็นพี่น้อง เป็นฝูง หรือ sister stock นี่แหละ อาทิ ตอนนี้เท่าที่เห็นชัดๆ ก็จะเป็นหุ้นพลังงานตัวใหม่ๆ ที่วิ่งดีกันเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจบรอบกันหรือยัง
ปล. กราฟเหล่านี้ผมทำไว้ช่วงครึ่งวันของวันที่ 4/10 นะ ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันวิ่งขึ้นหรือลง ไม่ได้เช็คต่อ
GPSC น่าจะเป็นพี่ชายหรือพี่สาวแน่นอน
ถ้าถามว่า ทำไมมันวิ่งดีจัง? เรื่องพื้นฐานผมไม่รู้หรอกนะ
แต่ถ้าเป็นเทคนิคอลแล้ว มันเข้าสูตร The line of least resistance เป๊ะเลย เพราะไม่มีแนวต้านเหลืออีกแล้ว ทางข้างบนโล่งแถมถ้าตลาดเป็นขาขึ้น และมี sister stock เกาะติดมาด้วย จะยิ่งมั่นใจอีกหลายเท่า

แต่อย่างไรก็ตาม, ก็ไม่แน่ใจว่าพวกนี้จะเป็น sister stock ได้หรือเปล่า?







ต้องคอยดูกันต่อไป ก็ไม่ได้ชี้นำนะ แต่ตั้งเป็นข้อสงสัยเท่านั้น ทำการบ้านต่อกันเอง เพราะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงบอกว่า คนที่เชื่อแต่คนอื่นนั้นท่านไม่สรรเสริญ ท่านสรรเสริญบุคคลที่รู้เป็นปัจจัตตัง คือรู้เฉพาะตนเอง เปรียบเหมือนอย่างคนที่ได้ลิ้มรสผลไม้ด้วยตนเอง ฉะนั้นเพราะ ถ้าได้ลิ้มรสด้วยตนเองแล้ว จะไม่ต้องไปถามผู้อื่นว่า เปรี้ยวหรือหวานอย่างไรความสงสัยทั้งหลายก็หมดไป เพราะได้รู้ประจักษ์ในความจริงแล้ว รู้อย่างทั่วถึงนี้ คือคนที่รู้ธรรมะแล้ว ผู้บรรลุถึงธรรมะก็คือบุรุษที่บรรลุถึงความเปรี้ยวหวานของผลไม้นั่นเอง



วิธีหาหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันก็ไม่ยาก ไปที่เว็บ http://portal.settrade.com แล้วพิมพ์ชื่อหุ้นที่เราสนใจลงไป เช่นในที่นี้ ผมคีย์ชื่อ gpsc เข้าไป พอมันขึ้นรายละเอียดแล้วก็คลิกไปที่เมนู "อันดับในอุตสาหกรรม" มันก็จะขึ้นลิสต์ชื่อหุ้นที่มีธุรกิจไกล้เคียงกันมาให้ท่านดู ก็ให้ท่านไล่เช็คกราฟเอาเอง ว่าตัวไหนเด็ดสุด หรือมีรูปแบบราคาที่น่าลุ้นที่สุดตามหลักการที่ท่านมั่นใจที่สุด


และอีกอย่างที่อยากเตือนกัน ว่าอย่าไปเสียเวลากับหุ้น laggard
โอเค...หุ้นพวกนี้เหล่าโบรคเกอร์จะชอบเชียร์มาก ประเภทว่าเขาวิ่งกันหมดแล้ว แต่ตัวนี้ยังนิ่ง รีบเก็บด่วน
คือถ้าเรามองผ่านบริบทของ "กระแสเงินไหลบ่าเข้าอุตสาหกรรมนั้น" เงินก็คือคนนั่นแหละ ใช่มั้ยคนใช้เงินซื้อหุ้น ฉะนั้นหุ้นที่วิ่งก็สื่อชัดอยู่แล้วว่า "มันถูกเลือกว่าดีกว่าใคร" ซื้อแล้วกำไร ใครๆเห็นก็เชื่อว่าเหมาะสม
โลกของทุนนิยมนั้น มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่มีการสงสารหรือคอยทำทานแบบที่เม่าโลกสวยคิดหรอก แหม...ถ้าทั้งอุตสาหกรรมวิ่งเดี๋ยวตัวนี้ก็ซิ่งตาม บอกเลยว่าโอกาสมีน้อยยิ่ง


ขอต่อไปอีกประเด็นที่ค้างไว้,
การมี sister stock ถือเป็นสิ่งที่ลิเวอร์มอร์ชอบมาก เพราะมันเป็นตัวช่วยครอสเช็คการเคลื่อนไหว ทั้งทางขึ้นและลง ในทางขึ้นก็รู้ๆกันแล้วนะ ว่ารู้ชัดแน่เม็ดเงินเข้ามากองสุมในกลุ่มนี้มากมาย
ในทางลง ก็บอกใบ้ด้วยความอ่อนแอเป็นชุด ง่อยก็ง่อยทั้งพี่ทั้งน้อง แบบนี้ถือว่ายืนยัน แต่ถ้าหากน้องง่อย แต่พี่ยังขโยกไปได้ ก็ถือว่ายังพอไปไหว อะไรประมาณนี้

สรุป หลักการ sister stock
1) มีหุ้นทำ All time high ตัวนึงน่าสนใจ
2) หาหุ้นในธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมเดียวกัน ที่เหลือ ดูว่าทรงเป็นยังไง
3) ถ้ามันเป็นขาขึ้นทรงเดียวกัน แม้จะไม่ ATH แต่ก็จ่อๆ หรือข้าม 52 week high มาได้ ก็ถือว่าน่าสนใจ
ให้เลือกเล่นตัวนำ หรือไม่ก็ตัวรองที่วิ่งตามมาติดๆ ซึ่งจุดซื้อที่เสี่ยงต่ำต้องไปหากันเอาเอง

นี่เป็นตัวอย่างที่ผมมโนมาเท่านั้นเองนะ ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของทฤษฎีจะคิดแบบนี้หรือเปล่า เพราะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่เท่าที่รู้ก็คือ กลุ่มอุตสาหกรรมนำตลาดจะมาแบบไม่ซ้ำกัน แบบที่เคยวิ่งมาแล้ว มันจะไม่วิ่งอีก ดังนั้น อย่าไปซื้อดักโดยเด็ดขาด เอาแค่ท่านตามกระแสให้ทัน ก็ขี้คร้านจะทำเงินไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

-------------------------
-------(ขอประชาสัมพันธ์สักนิดนะครับ)-------
 -----(เผื่อมีคนยังไม่ทราบ) -----
หนังสือผลงานของผู้เขียนเองครับ
มีสองเล่ม พี่น้อง ดำ - เขียว
ถ้าท่านชอบบทความที่ผมเขียน อยากมีหนังสืออ้างอิงเก็บไว้
อยากอ่านเนื้อหา+เคส เพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้น


"หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" (เล่มดำ) แนะแนวทางการเทรดหุ้นแนวโน้มขาขึ้น ด้วย กราฟวีค ก็จะเน้นการดูแนวโน้มขาขึ้นด้วย price pattern จากนั้นก็รันเทรนด์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ย จบลงที่การขายด้วย price pattern เรียกว่าครบวงจรตั้งแต่ซื้อยันขายเลยครับ อ่านเล่มเดียวจบ
อ่านสรุปหนังสือ หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ที่นี่
รีวิวหนังสือหุ้นขาขึ้นรอบใหญ่

ส่วน "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" (เล่มเขียว) แนะแนวทางการเทรดหุ้นแนวโน้มขาขึ้นด้วยกราฟรายวัน เล่มนี้จะเน้นการดูแท่งเทียน เอามาใช้ในการหาสัญญาณต้นเทรนด์ของขาขึ้น ซื้อหุ้นแบบ buying strength, buy weakness รันเทรนด์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 10,20,50, 100, 200 วัน ขายหุ้นออกด้วย selling into strength, selling weakness ครบวงจรเช่นกัน
อ่านสรุปหนังสือ หุ้นซิ่งสวิงเทรด ที่นี่

ถ้าให้เทียบความต่างของทั้งสองเล่มนะ
เล่มดำเป็นการเขียนถึงภาพรวม ภาคทฤษฎี
ส่วนเล่มเขียว เป็นการเจาะลึก เน้นเคส เป็นภาคปฏิบัติ

อ่านจบสองเล่ม ท่านสามารถเดาใจผมได้หมด ว่าเทรดยังไง
เพราะมันเป็นการกลั่นออกมาจากประสบการณ์และมุมมองของผมเอง

ผมใช้ไอเดียพวกนี้แหละครับในการทำเงินได้หุ้นเด้ง อย่างที่เคยอวดไว้
คลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ครับ

สนใจติดต่อสั่งซื้อหนังสือหุ้นทั้งสองเล่ม
ส่งข้อความไปที่เพจ Zyo Books : facebook.com/zyoboooks



ส่วน eBook มีขายที่เว็บ mebmarket.com เท่านั้นครับ
รายละเอียด คลิกที่ชื่อหนังสือเลยครับ
หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่

------(ขอบคุณครับ)-----

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ